เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม. ว่า ในที่ประชุมครม.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปรารภว่าในระหว่างที่รัฐบาลดำเนินการเรื่องวัดธรรมกายได้มีการแสดงความคิดเห็นจากหลายส่วนรวมทั้งสื่อมวลชนว่าใครจะชนะใครจะแพ้ รัฐรุกหนัก ม.44 ไม่ขลัง เป็นต้น ซึ่งนายกฯมีความรู้สึกว่า ต้องการให้ประชาชนเข้าใจว่าไม่มีกฎหมายใดที่แรงไปกว่านี้แล้วสามารถทำให้ปัญหาทุกอย่างแก้ได้จบสิ้น เพราะปัญหาทุกอย่างนั้นอยู่ที่คนกับการที่จะยินยอมรับการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้สังคมมีความเรียบร้อย ขอให้มองอีกมุมด้วยว่าม.44 นั้นอยู่เฉพาะกับรัฐบาลนี้กับคสช. แต่วันข้างหน้าเมื่อไม่มีคสช. ไม่มีม.44 แต่ถ้ายังมีแนวคิดแบบเดิมๆว่าถ้ามีกฎหมายใดออกมาแล้วไม่เห็นด้วยก็จะต่อต้านไปหมดทุกเรื่องปัญหาก็ไม่จบสิ้น และเกิดปัญหาขึ้นเรื่อยๆ นายกฯจึงต้องการให้สติกับสังคมว่า อย่าคิดว่าม.44 จะแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง รัฐบาลและคสช.พยายามทำให้ดีที่สุดแต่วิธีการปฏิบัติของคนต่างหากที่จะเคารพกฎหมายที่จะทำให้แก้ปัญหาสังคมได้ สังคมส่วนใหญ่ หากเห็นว่าคนส่วนน้อยปฏิบัติผิดกฎหมายก็ต้องร่วมกันกดดัน ไม่ได้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐ หรือเป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งเพราะปัญหาของประเทศคือปัญหาของทุกคน เวลามีความเดือดร้อน แก้ปัญหาไม่ได้ ทุกคนก็มีความเดือดร้อนด้วยกันหมด
“บิ๊กตู่” “ประวิตร-สุวพันธุ์-บิ๊กแป๊ะ” ถก ปัญหาวัดพระธรรมกาย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 16.45 น. ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เสร็จสิ้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางกลับเข้ามาทำเนียบอีกครั้งเพื่อเข้าหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ห้องทำงาน บนตึกไทยคู่ฟ้า โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ร่วมหารือ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ในระยะใกล้ คาดว่าจะมีการหารือกันในเรื่องพระธัมมชโย ซึ่งก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะสั่งการให้ นายสุวพันธุ์ เป็นผู้ไปหารือกับทางวัดพระธรรมกายเพื่อหาข้อยุติในปัญหาที่เกิดขึ้น
