นักวิจัยเตือนพ่อ-แม่ อย่า”ทำการบ้านแทนลูก”

ภาพ-neatoday.org

จูดิธ ล็อค นักจิตวิทยาคลินิก จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีควีนส์แลนด์ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ตีพิมพ์เผยแพร่งานวิจัยเชิงจิตวิทยาครั้งใหม่ ที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากการที่พ่อแม่ ผู้ปกครองที่รักลูกหลานมากจนเกินไป จนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำการบ้านของลูกๆ มากจนเกินไป โดยชี้ให้เห็นว่า ในที่สุดแล้วจะส่งผลกระทบต่อเด็กๆ เหล่านั้นไม่น้อย

งานวิจัยดังกล่าวใช้วิธีการสำรวจพฤติกรรมผ่านแบบสอบถามออนไลน์ของผู้ปกครองของเด็กจำนวน 866 คนจากโรงเรียนในระดับมัธยมในหัวเมืองชั้นใน 3 โรงเรียน โดยตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อในความเป็นพ่อแม่, และความมุ่งมั่นในฐานะพ่อแม่ กับการใช้มาตรวัดทัศนคติของผู้ปกครองกลุ่มดังกล่าวเชื่อมโยงกับการบ้านของเด็กนักเรียนที่เป็นลูกหลานได้รับ จากนั้นนำคำตอบที่ได้มาแปลงเป็นคะแนนตามมาตรวัดที่เรียกว่า “ล็อค แพเรนติ้ง สเกล” หรือ “แอลพีเอส” โดยผู้ที่ได้คะแนนสูงจะเป็นผู้ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำการบ้านของลูกมากเกินไป หรือในบางกรณีถึงกับทำการบ้านแทนลูกเพื่อให้งานที่ได้รับมอบหมายมาแล้วเสร็จ

จูดิธ ล็อค สรุปไว้ในงานวิจัยว่า พฤติกรรมของพ่อแม่ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำการบ้านของลูกมากเกินไป จะส่งผลบั่นทอนขีดความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตัวเองของเด็ก และทำให้เด็กขาดแรงจูงใจในการทำงานให้แล้วเสร็จได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีใครช่วย ทำให้เด็กขาดความรับผิดชอบ ไม่เข้าใจถึงผลลัพธ์จากการกระทำใดๆ ของตนเอง

ผลวิจัยดังกล่าวสอดคล้องกับผลการวิจัยก่อนหน้านี้ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำวิจัยในนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยและพบว่า การเข้าไปยุ่งกับงานที่ได้รับมอบหมายของลูกๆ มากจนเกินไป ตั้งแต่การปรับแก้รายงานเรื่อยไปจนถึงการทำแทนให้ทั้งหมด

Advertisement

พฤติกรรมดังกล่าวของพ่อ-แม่จะส่งผลให้นักศึกษารายนั้นๆ ไม่ใส่ใจในการเรียน มักมีอาการหดหู่ ซึมเศร้า และความพึงพอใจในชีวิตลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image