สุวพันธุ์ แจงคนเสียชีวิตไม่เกี่ยวกู้ชีพช้า เผย เสียชีวิตแล้ว2 ชม. ก่อนแพทย์ชันสูตรบ่าย2

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้แจงกรณีที่มีสื่อต่างๆโดยเฉพาะ facebook ของเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย และการให้สัมภาษณ์ของพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย “R.I.P. ศพที่ 2 ของ ม.44” กรณีมีผู้ป่วยโรคหอบหืดเสียชีวิต โดยอ้างว่ารถกู้ชีพเข้าไปช่วยไม่ทันเพราะติดที่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปช่วยว่า ตนได้รับรายงานแล้วซึ่งผลการตรวจสอบจากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ เจ้าหน้าที่รถกู้ชีพ 1669 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพบว่า เวลาประมาณ 12.00 น. ขณะที่ ร.ท.กิตติคม คงสมโภชน์ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ กำลังปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับฝ่ายทหารที่จุดตรวจร่วม N 3 ด้านข้างวัดพระธรรมกาย ซึ่งอยู่บริเณใกล้ประตู 6 ได้มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิง ของวัดพระธรรมกายจำนวน 2 คน เดินเท้ามาหาขอความช่วยเหลือให้ประสานงานรถพยาบาล เพื่อไปช่วยเหลือผู้ป่วย ร.ท.กิตติคม ฯ จึงแจ้งไปยังจุดประตู 7 เพื่อประสานงานของรถกู้ชีพฉุกเฉิน และขับรถพา เจ้าหน้าที่วัดทั้งสองคนมาส่งที่ประตู 7 ขนาดเดียวกัน ได้ทราบว่า เจ้าหน้าที่รถฉุกเฉิน ข้อได้รับการสั่งการจากศูนย์วิทยุ ปทุมธานี ให้นำรถฉุกเฉินมารอที่ประตู 7 เพื่อไปรับผู้ป่วย

จากนั้น มีรถฉุกเฉิน 1669 รถมูลนิธิปอเต็กตึ้ง ได้เดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของวัดพระธรรมกาย ไปยังบริเวณที่พักของเจ้าหน้าที่วัด ซึ่งอยู่ด้านนอกของวัดพระธรรมกาย ตรงข้ามกับประตู 14 โดยบริเวณดังกล่าวเป็นอาคาร 4 ชั้น ห้องที่ผู้ตายอยู่เป็นชั้น 4 ห้อง 1404 เมื่อเจ้าหน้าที่ขึ้นไปถึงพบว่าห้องปิดล็อก จึงพังประตูเข้าไป พบผู้ตายนั่งคว่ำหน้าอยู่กับที่นอน เจ้าหน้าที่ได้ช่วยชีวิต แต่ไม่มีสัญญาณชีพแล้ว เจ้าหน้าที่ของวัด รถฉุกเฉิน 1669 และเจ้าหน้าที่มูลนิธิ จึงเดินทางกลับมายัง สภ. คลองหลวง และแจ้งให้พนักงานสอบสวนทราบ เพื่อไปชันสูตรพลิกศพตามกฎหมาย โดยใช้เวลาตั้งแต่การรับแจ้ง ประสานงาน จนถึงที่เกิดเหตุ ประมาณ 20 นาทีเศษ

เวลาประมาณ 13.31 น. พระมหานพพร ซึ่งเป็นพระผู้ประสานงานของวัดพระธรรมกายได้โทรศัพท์ติดต่อ พ.ต.ต.กันตวีร์ จัยสิน ผอ.ปพ. ดีเอสไอ ซึ่งอยู่ที่ประตู 7 ขอให้ช่วยประสานงาน ขอรถพยาบาล ไปดูผู้ป่วย ในจุดเดียวกัน เมื่อเดินทางไปถึง พบว่ามีพนักงานสอบสวนและแพทย์อยู่ในที่เกิดเหตุก่อนแล้ว โดยอยู่ระหว่างชันสูตรพลิกศพ จึงเดินทางกลับ

นายสุวพันธุ์ กล่าวด้วยว่า จากการสอบถามพนักงานสอบสวน ได้ความว่า ได้ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้น พบว่าผู้ตายเป็นหญิงชื่อ นางสาวพัฒนา เพียงแรง อายุ 48 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ของวัดพระธรรมกาย อาชีพเภสัชกร อาศัยอยู่ที่วัดมาประมาณ 25 ปี มีน้องชายเป็นพระบวชอยู่ที่วัดด้วย มีอาการป่วยเป็นโรคหอบหืด จากการชันสูตรเบื้องต้น แพทย์ลงความเห็นว่าน่าจะเสียชีวิตมาประมาณ 2 ชั่วโมง (ชันสูตรเวลาประมาณ 14.00 น.) ขณะนี้มีการเชิญตัว ผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนปากคำ และรอรายงานการชันสูตรจากแพทย์ เพื่อยืนยันสาเหตุการตาย และดำเนินการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้น ญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย

Advertisement

นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อว่า จากลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นว่าไม่มีส่วนของรถกู้ชีพของมูลนิธิวัดพระธรรมกายเข้ามาเกี่ยวข้อง เพียงแต่มีเจ้าหน้าที่เดินเท้ามาขอความช่วยเหลือเพียง 2 คน และกระบวนการช่วยเหลือเข้าใช้เวลาเพียง 20 นาทีเศษ และในห้วงเวลา ที่พระมหานพพร ประสานขอความช่วยเหลือนั้น เจ้าหน้าที่ของวัดก็ทราบแล้วว่าผู้เสียชีวิตได้เสียชีวิตไปแล้ว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image