‘บิ๊กป้อม’ตรวจอู่ซ่อมบำรุง ทร.-ดูแผนสร้างโรงซ่อมเรือดำน้ำ

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยงานของกองทัพเรือและสายงานด้านการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ โดยมี พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้การต้อนรับ โดย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า กองทัพเรือมีความก้าวหน้ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของงานวิจัยและพัฒนาในหลายเรื่อง เพื่อพึ่งพาตัวเองต่อไปในอนาคต กองทัพเรือได้มีการจัดสร้างเรือหลวง (ร.ล.) กระบี่ น้ำหนัก 1,900 กว่าตัน เป็นเรือขนาดใหญ่พอสมควร ซึ่งเราพยายามทำเองทุกอย่าง นอกจากนี้ยังมีเครื่องบินลาดตระเวนทางน้ำที่สร้างขึ้นเองจนสามารถใช้ประโยชน์ได้ ในอนาคตจะมีการดำเนินการโดยเฉพาะเครื่องบินไร้คนขับ (ยูเอวี) ที่มีระยะบินไกล 400 กิโลเมตร ระดับความสูงที่ 2,000 เมตร ถือได้ว่ากองทัพเรือมีความก้าวหน้าและมีความสามารถเป็นอย่างยิ่ง

“ผมจะไปดูทุกเหล่าทัพ และจะให้รวบรวมว่าสิ่งใดที่เราทำได้มีการดำเนินการและมีความก้าวหน้า ให้กองทัพนั้นเป็นต้นแบบดำเนินการ ในส่วนของเหล่าทัพอื่นก็ต้องเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น โดยการบูรณาการร่วมกันทุกเหล่าทัพ โดยมี พล.อ.อุดมเดชทำหน้าที่ดูแลการบูรณาการทั้งหมด เพื่อการพึ่งพาต่อไปในอนาคต ถือเป็นการปฏิรูปในเรื่องของยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยในอนาคต 20 ปีข้างหน้าจะทำอะไร ส่วนต่อไปทุกเหล่าทัพจะมีโรงงานซ่อมสร้างเป็นของตัวเองหรือไม่นั้น คงไม่ใช่ เพราะต้องมาดูก่อน ว่าต้องเป็นโรงงานซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ประเทศใดที่กองทัพมีประจำการอยู่ เช่น เราซื้อรถถังจีน vt-4 ก็น่าจะมีโรงงานซ่อมสร้าง เครื่องซ่อมบำรุงในการดำเนินการต่างๆ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการยังต้องพูดคุยกันอีก ถือเป็นความร่วมมือกันของจีนและไทยจะผลิตเองด้วย” พล.อ.ประวิตรกล่าว

พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการสร้างอู่ซ่อมเรือดำน้ำว่า เป็นเพียงการกำหนดสถานที่ขณะนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ยังไม่อยากให้ไปถามล่วงหน้า ยังไม่อยากลงรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว แต่ความพร้อมที่จะรองรับเรือดำน้ำ กองทัพเรือมีความพร้อมมานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้ซื้อ เนื่องจากติดข้อท้วงติงในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องเรือดำน้ำใช้ประโยชน์ไม่ได้ และทะเลของไทยมีความตื้น อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าเรือดำน้ำใช้ได้ ที่ผ่านมาเราไม่เคยไปดู 200 ไมล์ทะเลทางด้านตะวันตกทะเลอันดามันว่าเรามีทรัพยากรธรรมชาติอะไรอยู่บ้าง แต่โดนโจมตีจนไม่ได้ซื้อทุกครั้ง ทุกเรื่องยืนยันว่าเราพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดและทำให้ประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยของ พล.อ.ประวิตร เพื่อรับฟังความก้าวหน้าในการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพเรือด้านการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะขีดความสามารถในการซ่อม สร้าง/ผลิต วิจัยและพัฒนาของกองทัพเรือ ในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมกับภาคเอกชน และกระทรวงกลาโหมมิตรประเทศ เพื่อนำไปสู่การพึ่งพาตนเองและเพื่อการพาณิชย์ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรได้ชมการดำเนินการของกองทัพเรือในสายงานด้านการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ ประกอบด้วย การซ่อมเรือ การซ่อมอากาศยาน การซ่อมสรรพาวุธ และการซ่อมรถยนต์สงครามชนิดรบ รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการซ่อมบำรุงเรือดำน้ำที่จะมีเข้าประจำการในอนาคต โดยอู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ เตรียมพื้นที่ 40.78 ไร่ สร้างโรงซ่อมเรือดำน้ำ ขนาด 50 คูณ 100 คูณ 25 เมตร เพื่อรองรับเรือดำน้ำรุ่น Yuan Class S 26 T จากสาธารณรัฐประชาชนจีนในอนาคต บริเวณอ่าวสัตหีบใกล้กับจุกเสม็ด โดยโครงการดังกล่าวกองทัพเรือกำลังจัดทำแผนเพื่อขออนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการก่อสร้างต่อไป

Advertisement

มีรายงานข่าวว่า กองทัพเรือได้จัดทำเอกสารรายละเอียดการจัดซื้อเรือดำน้ำรุ่น Yuan Class S 26 T จากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 1 ลำ วงเงินงบประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท เสนอต่อ พล.อ.ประวิตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะเรื่องความจำเป็นในการดูแลผลประโยชน์ของชาติทางทะเลกว่า 24 ล้านล้านบาท เปรียบเทียบกับยุทโธปกรณ์กับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงขีดความสามารถ ความเหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศ หลังจากนี้หากไม่ติดปัญหาทางเทคนิค พล.อ.ประวิตรจะนำเข้าเสนอต่อที่ประชุม ครม.ภายในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อให้ทันกับงบผูกพันรายจ่ายประจำปี 2560 ทั้งนี้ หากโครงการเรือดำน้ำนี้ผ่านจะต้องใช้เวลาอีก 7 ปี ถึงจะได้เรือดำน้ำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image