วันที่ 11 มีนาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการที่วัดพระธรรมกาย ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเเละทหารตรึงกำลังไว้ตามประตูต่างๆ ตามคำสั่งมาตรา 44 ของ คสช.
โดยประตูที่ 7 ถนนบางขันธ์-หนองเสือ ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนอยู่เฝ้าประตูจำนวน 20 นาย ซึ่งจุดดังกล่าวปกติจะมีเจ้าหน้าที่ทหารคอยควบคุมดูแลอย่าละเอียด แต่ปรากฏว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารแม้แต่นายเดียวอยู่ประจำจุดนี้ ส่วนภายในวัดพระธรรมกาย มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวนหนึ่งกองร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 11 อีกหนึ่งกองร้อยคอยเฝ้าระวังภายในวัดพระธรมกาย
ประตู 5-6 ถนนเลียบคลองแอล ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชน ประจำจุดประตูละจำนวน 5 นาย ในส่วนประตูที่ 1-4 ถนนเลียบคลองสาม ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พบว่ายังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าระวังในบริเวณนี้อย่างหนาแน่น รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารด้วย
นอกเหนือจากนั้น บริเวณประตูต่างๆ รอบวัดพระธรรมกาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประจำจุดแค่เพียงไม่กี่นาย ซึ่งภายหลังการประกาศยุติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ทำให้ประชาชนในพื้นที่รอบวัดพระธรรมกายและศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายต่างดีใจและลดความตึงเครียดเป็นอย่างมาก
ด้านนางวิ (นามสมมุติ) เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ยุติการตรวจค้นวัดพระธรรมกายและอนุญาตให้ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายได้เข้าไปภายในวัดได้รู้สึกดีใจมากจนน้ำตาไหล และขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ทำให้สถานการณ์นั้นลดความตึงเครียดลงและอนุญาตให้เข้าวัด เพราะว่าตลอดระยะเวลาที่มีการใช้มาตรา 44 ตนก็มาทุกวัน เพื่อมากราบบูชามหาเจดีย์วัดพระธรรมกาย เนื่องจากตนเองและประชาชนจำนวนมากเป็นผู้ร่วมสร้างวัดพระธรรมกายขึ้นมาและมีความเคารพศรัทธาต่อหลวงพ่อธัมมชโย
ที่ผ่านมาตนเองเข้ามาทำบุญกับวัดพระธรรมกายนานนับสิบปีแล้ว ไม่เคยเห็นและได้ยินหลวงพ่อธัมมชโยสอนแนวทางผิดพระพุทธศาสนา ตามที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด จึงอยากจะขอให้คนที่ว่าร้ายต่อหลวงพ่อธัมมชโย ลองเข้ามาที่วัดพระธรรมกายบ้างจึงจะรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร
