ท่าทีในการวัดค่า ประเมินผล จากปฏิบัติการ”ธรรมกาย”ตลอด 23 วันมีความสำคัญเป็นอย่างสูง
ไม่ว่าจะมาจาก “ดีเอสไอ”
ไม่ว่าจะมาจาก “ตำรวจ” ไม่ว่าจะมาจาก “ทหาร” ซึ่งมีส่วนร่วมใน “ยุทธการ”
มี “บทสรุป” เพียง 2 “บทสรุป”
1 วัดค่าออกมาเป็นความสำเร็จ เป็นชัยชนะ และ 1 วัดค่าออก มาเป็นความล้มเหลว เป็นความพ่ายแพ้
นั่นก็ขึ้นอยู่กับ “เครื่องมือ”
นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่า “เครื่องมือ” ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
“เครื่องมือ” ย่อมสัมพันธ์กับ”วิธีวิทยา”
ผลจึงออกมาว่า “ท่าดีทีเหลว” ผลจึงออกมาว่า”จัดการได้อย่าง ชนิดอยู่หมัด”
การวัดค่า ประเมินผล จึง”สำคัญ”
หากพิจารณาจาก “ท่าที” ของ “สื่อมวลชน” อาจสามารถวัดค่าและ ประเมินผลได้ในระดับที่แน่นอนหนึ่ง
เป็น “ท่าที” การใช้คำ “พาดหัว”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลการปฏิบัติตรวจค้นหาตัวพระธัมมชโยล่าสุด ณ อารามปริสุทโธ บริเวณถนนเลียบคลองสาม
แล้วพบเสื้อยืด”เหลือง”จำนวน 2 ตัว
พร้อมกับเอกสารเกี่ยวกับตำรวจให้ข่าวกับสื่อ เอกสารเกี่ยวกับการถวายฎีกา คำขอคุ้มครองชั่วคราว คำให้การของ พระสมชาย ฐานวุฑโฒ
จากเวลาที่ใช้ในการตรวจค้น 2 ชั่วโมง
พาดหัวของสื่อระดับ”ยักษ์” บางฉบับใช้คำว่า “วืด” บางฉบับใช้คำว่า “คว้าน้ำเหลว”
ซึ่งก็เป็นการใช้คำอย่างสอดรับกับความเป็นจริง
เพราะว่าดีเอสไอไม่สามารถพบและจับตัว พระธัมมชโย ได้เช่นเดียวกับปฏิบัติการ 23 วัน ณ วัดพระธรรมกาย
เพียงแต่”น้ำเสียง”สะท้อนความรู้สึก”ผิดหวัง”
หากนำเอาท่าทีของ”สื่อมวลชน”ไปวางเรียงเคียงกับที่เคยแสดงออกเมื่อเช้าวันที่ 16 กุมภาพันธ์
สะท้อนความ”ต่าง”อย่างเด่นชัด
ตั้งแต่มีคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 5/2560 ประกาศออกมากลางดึกของคืนวันที่ 15 กุมภาพันธ์
มีความคาดหวัง มีความเชื่อมั่น”สูง”เป็นอย่างสูงยิ่ง
เป็นความเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างสดสวย งามตา สามารถนำตัว พระธัมมชโย นำส่งสำนักงานอัยการสูงสุดได้
1 เป็นความเชื่อมั่นต่อ”มาตรา 44″
1 เป็นความเชื่อมั่นต่อ “คสช.” ซึ่งกุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ด ขาดในทางการเมือง ในทางการทหาร
แต่ในที่สุดก็”วืด” แต่ในที่สุดก็”คว้าน้ำเหลว”