‘หมอธี’เล็งตั้งสถาบันคุรุพัฒนา แจกคูปองช็อปคอร์สขอวิทยฐานะ ดีเดย์โละระบบทำผลงานด้วยกระดาษ5ก.ค.

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ได้มีการหารือถึงการจัดตั้งสถาบันคุรุพัฒนา ซึ่งเป็นสำนักภายในของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เพื่อทำหน้าที่ในการพัฒนาและจัดอบรมครูในสังกัด สพฐ. โดยจะมีการจัดทำหลักสูตรในการอบรมครูในรูปแบบใหม่ นอกจากนี้หากมีหลักสูตรที่ผู้อื่นจัด ถ้าคิดว่าจัดได้ดีก็สามารถนำมาให้สถาบันคุรุพัฒนาให้การรับรองหลักสูตรได้ เพื่อให้ครูสามารถที่จะเลือกช็อปหลักสูตรอบรมตามที่ครูต้องการ ซึ่งทางสถาบันคุรุพัฒนาจะช่วยให้คำแนะนำครูว่าควรจะพัฒนาในหลักสูตรใด ถึงจะเชื่อมโยงกับการขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะแนวใหม่ โดยขณะนี้ สพฐ.มีงบพัฒนาครูอยู่แล้วประมาณ 10,000 บาทต่อคนต่อปี แต่ที่ผ่านมาให้แบบกระจัดกระจาย แต่หลังจากนี้จะจัดเป็นคูปองให้กับครูเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาตนเอง โดยคูปองดังกล่าวจะมีอายุ 1 ปี ทั้งนี้เหตุผลที่ต้องมีการจัดตั้งสถาบันคุรุพัฒนาขึ้นมา ก็เพื่อทำให้มีผู้รับผิดชอบในการพัฒนาและอบรมครูอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งตนจะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ในวันที่ 15 มีนาคมนี้

รัฐมนตรีว่าการศธ.กล่าวต่อว่า เมื่อสถาบันคุรุพัฒนาจัดทำหลักสูตรในการอบรมครูขึ้นมา ครูจะเลือกเองว่าจะอบรมหลักสูตรไหนที่จะนำไปขอวิทยฐานะได้ โดยครูจะต้องมีแฟ้มสะสมผลงาน และล็อคบุ๊คเพื่อบันทึกชั่วโมงการสอนรวมทั้งการอบรม หรือเป็นการรวมกลุ่มเพื่อจัดการความรู้และแชร์ประสบการณ์ในระบบ PLC หรือกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบแอคทีฟเลิร์นนิ่ง ซึ่งสามารถนำไปเป็นหลักฐานในการขอวิทยฐานะได้ ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำลังไปคิดการนับชั่วโมงการอบรมพัฒนาว่าอบรมหลักสูตรไหน กี่ชั่วโมงถึงจะได้วิทยฐานะชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ เป็นต้น ทั้งนี้หลังจากมีการจัดทำหลักสูตรอบรมเสร็จเรียบร้อยก็จะเริ่มการอบรม และให้เริ่มขอวิทยฐานะในรูปแบบใหม่ได้หลังจากที่ชะลอมานาน ส่วนผู้ที่ค้างท่ออยู่ก็จะให้ดำเนินการต่อไปได้ โดยจะมีการนำรูปแบบเก่าและใหม่มาผสมผสานกัน แต่จะยกเลิกการพิจารณาผลงานทางวิชาการ

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9ทรงมีพระราชหัตถเลขาเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2555 ว่าปัญหาปัจจุบันของครู คือครูมุ่งเขียนงานวิทยานิพนธ์ เพื่อให้มีเงินเดือนสูงขึ้น ส่วนครูที่มุ่งการสอนหนังสือกลับไม่ได้อะไรตอบแทน ดังนั้นในวันที่ 5 กรกฎาคม 2560นี้ผมจะยกเลิกระบบการทำผลงานทางวิชาการที่เป็นกระดาษอย่างเป็นทางการ แต่จะให้นับชั่วโมงการสอน การอบรม การทำ PLC และแอคทีฟเลิร์นนิ่งมาใช้แทน” นพ.ธีระเกียรติกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image