สุเทพ ลั่น พรรคการเมืองต้องเป็นของปชช.ไม่ใช่คนๆเดียว ชูใช้หลักไพรมารีโหวตเลือกคน

“สุเทพ” เสนอ 3 ข้อปฏิรูปการเมือง ชี้ต้องเริ่มจากพรรคและนักการเมือง ย้ำ การเมืองต้องเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง

เมื่อเวลา15.00 น. วันที่ 13 มีนาคมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย(มปท.)ได้ไลฟ์สด ผ่านเฟสบุ๊ค ว่า ประเด็นที่จะไปหารือกับ ปลัดกระทรวงกลาโหมในวันที่ 17 มีนาคมนี้ ในเรื่องปฏิรูปการเมืองเรามีความเห็นตรงกันในหมู่ประชาชนว่า 1.การเมืองในยุคสมัยใหม่ ต้องเป็นการเมืองของประชาชนโดยประชาชน เพื่อ ประชาชน การที่จะทำการเมืองให้เป็นการเมืองของประชาชนได้ต้องทำที่พรรคการเมืองก่อน โดยต้องมีบทบัญญัติกำหนดไว้เลยว่าพรรคการเมืองจะต้องเป็นพรรคการเมืองของประชาชนเท่านั้น และประชาชนต้องเป็นเจ้าของพรรค ซึ่งในทางปฏิบัติเราต้องมีบทบัญญัติบังคับว่าประชาชนจำนวนเท่าไรถึงจะรวมตัว จัดตั้งพรรคการเมืองได้ จะต้องมีตัวเลขที่มีนัยยะสำคัญเชื่อมโยงกับจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศในปีนั้นๆด้วย เช่น อาจจะต้องมีกฎหมายกำหนดว่าประชาชนไม่น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ จึงจะสามารถรวมตัวกันจัดตั้งเป็นการเมืองของประชาชนขึ้นมาได้ ซึ่งในทางปฏิบัติตอนเริ่มต้นอาจจะเริ่มต้นที่ 2-3หมื่นคนก่อน แต่ก่อนที่จะส่งผู้สมัครของพรรคลงรับเลือกตั้งจะต้องมีการดำเนินการให้มีประชาชนเข้ามาร่วมกันเป็นเจ้าของพรรคการเมืองนั้นครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด

นายสุเทพ กล่าวว่า 2. ถ้าพรรคการเมืองที่เป็นของประชาชน ประชาชนต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย เป็นค่าใช้จ่ายของพรรคการเมืองที่มีที่มาขัดเจนว่าเจ้าของพรรคเป็นคนบริจาคเงินให้พรรคการเมืองทุกปี บริจาคเท่าไรมีตัวเลขชัดเจนแล้วให้รัฐบาลจ่ายเงินสมทบเป็นค่าบำรุงพรรค เท่ากับจำนวนที่สมาชิกเจ้าของพรรคร่วมกันชำระ แล้วต้องมีกฎหมายควบคุมอย่างแข็งแรงในเรื่องการใช้จ่ายเงินของพรรคจะผิดกฎหมายไม่ได้ จะเอาเงินของประชาชนไปซื้อสิทธิขายเสียงเลือกตั้งไม่ได้หรือใช้ในทางที่เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยไม่ได้โดยเด็ดขาด ถ้าเมื่อไรทำแบบนั้นกรรมการบริหารพรรคต้องรับผิดชอบและ3.ในทางการบริหารพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของสมาชิกพรรคหรือเจ้าของพรรค เพื่อให้การคัดกรองคนที่จะมาทำหน้าที่ในการบริหารพรรคมาจากความยินยอมพร้อมใจของเจ้าของพรรคแท้จริงไม่ใช่เป็นเรื่องของคนในครอบครัวเดียวกัน กระจุกเดียวกัน แล้วมายึดอำนาจพรรคอย่างที่เราเคยเห็นในอดีต

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในพรรคการเมือง เวลาพรรคการเมืองจะคัดเลือกตัวบุคคล เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.เป็นนายกเทศมนตรี เป็นผู้ว่าฯกทม.ต้องให้สมาชิกพรรค หรือเจ้าของพรรคในเขตเลือกตั้งนั้นๆจังหวัดนั้นๆ ลงมติเลือกตัวแทนของพรรคเพื่อที่จะส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง อย่างที่เรียกว่าไพรมารีโหวต เพื่อที่จะไม่ให้ผู้บริหารพรรคมีอำนาจที่จะชี้เอาคนนั้นคนนี้ เพราะคนที่จะส่งสมัครได้ต้องเป็นคนที่ประชาชนในเขตนั้นเลือกแล้วตกลงร่วมกัน กรณีนี้ให้เอาไปประยุกต์ใช้กับการคัดเลือกตัวผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อด้วย และผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อต้องยึดโยงผูกพันกับประชาชนในแต่ละเขตเลือกตั้งและแต่ละภูมิภาคด้วย ที่เราต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการป.ย.ป. เพราะเห็นว่าพรรคการเมืองและนักการเมืองจำเป็นที่จะต้องแก้ไขปรับปรุง ปฏิรูปไปในแนวทางนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image