‘ไทยพีบีเอส’ แจงซื้อหุ้นกู้ ‘ซีพีเอฟ’ ไม่ขัดกม. ย้ำไม่กระทบเสนอข่าวตามหน้าที่สื่อสาธารณะ

ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ (แฟ้มภาพ)

ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ให้สัมภาษณ์ ‘มติชนออนไลน์’ ถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าไทยบีพีเอสได้ลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ) ว่า ทางองค์กรมีการนำเงินจำนวนกว่า 100 ล้านบาทไปซื้อหุ้นกู้ของซีพีเอฟจริง แต่เป็นการลงทุนลักษณะการซื้อตราสารหนี้ ไม่ใช่ซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแต่อย่างใด ซึ่งการดำเนินการเป็นไปตามลักษณะองค์กรภาครัฐที่ต้องบริหารเงินทุน เช่นเดียวกับองค์กรอื่นๆ โดยการซื้อหุ้นกู้ครั้งนี้เป็นลักษณะการฝากเผื่อเรียกที่ได้ดอกเบี้ยไม่มาก และสามารถขายเพื่อนำเงินออกมาใช้ได้ตลอดเวลา สำหรับการเลือกหุ้นที่จะซื้อไม่ได้ระบุเจาะจงว่าต้องเป็นซีพีเอฟ หรือบริษัทใด แต่พิจารณาตามการประเมินของผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน โดยมีเกณฑ์ว่าแต่ละช่วงมีหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงไม่ต่ำกว่า A ตัวใดออกมาบ้าง และเลือกตามเหตุผล โดยยืนยันว่าการลงทุนดังกล่าวได้มีการเสนอให้กรรมการนโยบายรับทราบตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 จากนั้นก็ได้รายงานความคืบหน้าทุกไตรมาส

ทพ.กฤษดากล่าวด้วยว่า งบประมาณของสื่อสาธารณะไม่สามารถนำไปใช้จ่ายกับกิจการอื่นๆ นอกจากการทำสื่อได้นั้นเป็นความจริง แต่ครั้งนี้ไม่ใช่การจ่าย แต่เป็นการลงทุนให้งอกเงยเช่นเดียวกับการฝากเงินเพื่อรับดอกเบี้ยจากธนาคาร และไม่ใช่การมุ่งแสวงหาผลกำไร ตามวัตถุประสงค์ของ ส.ส.ท. ตามมาตรา 11(7) ดอกผลที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์สินของ ส.ส.ท.หมายถึงดอกผลปกติ เช่น ดอกเบี้ยเงินฝาก ค่าเช่าระบบเครือข่าย ส่วนที่หลายคนกังวลว่าการลงทุนนี้จะส่งผลต่อการนำเสนอข่าวของไทยพีบีเอสต่อเครือซีพี ยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบแน่นอน โดยอยากให้ประชาชนติดตามผลงานของไทยพีบีเอสแล้วจะเห็นว่าทางช่องเกาะติดเรื่องไม่ชอบธรรมต่างๆ ไม่ว่าจะการดำเนินงานของรัฐหรือเอกชน รวมถึงที่ผ่านมานำเสนอข่าวของซีพีเป็นจำนวนมากที่สุดเลยก็ว่าได้ สำหรับกรณีที่พนักงานบางส่วนมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนก็อาจต้องชี้แจงทำความเข้าใจอีกครั้ง

“เรื่องที่ว่าพนักงานถูกเพ่งเล็ง จริงๆ แล้วพนักงานสามารถสื่อสารอะไรก็ได้ถ้าเป็นข้อเท็จจริง แต่ถ้าไปพูดว่าไทยพีบีเอสไปซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ นั่นเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่องค์กร ก็จะมีความผิด ไม่ใช่ว่าเป็นการเพ่งเล็ง เพราะถ้าพูดความจริงก็ไม่ต้องกลัวอะไร” ทพ.กฤษดากล่าวในที่สุด

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image