สำนักข่าวเอเอฟพีและบีบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐอเมริกาประจำสถานทูตในกรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์รายหนึ่ง ถูกขับออกจากนิวซีแลนด์หลังจากสหรัฐปฏิเสธที่จะยกเว้นเอกสิทธิ์คุ้มครองของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว เพื่อให้ตำรวจสามารถสอบปากคำเขาในคดีร้ายแรงได้
เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอาญาร้ายแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม แต่ตำรวจไม่สามารถสอบปากคำเขาได้เนื่องจากสถานทูตสหรัฐปฏิเสธคำร้องขอ ทำให้ทางการนิวซีแลนด์ขอให้สหรัฐย้ายเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวนี้ออกนอกประเทศไป
สถานีวิทยุท้องถิ่นของนิวซีแลนด์รายงานว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเดินทางออกจากนิวซีแลนด์แล้วเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมาโดยที่ยังมีอาการจมูกหักและตาบวมช้ำ
ตำรวจนิวซีแลนด์ระบุว่า ยังคงเดินหน้าสอบสวนคดีนี้ที่เกิดขึ้นนอกกรุงเวลลิงตันต่อไป แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของคดีแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทูตที่ปฏิบัติงานในนิวซีแลนด์ได้รับการยกเว้นจากการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ปี 1961 อย่างไรก็ตาม กระทรวงต่างประเทศนิวซีแลนด์ระบุว่า ได้สื่อสารไปยังสถานทูตต่างๆ อย่างชัดเจนแล้วว่า นิวซีแลนด์คาดหวังให้เจ้าหน้าที่ทูตในนิวซีแลนด์ต้องปฏิบัติตามกฎหมายนิวซีแลนด์ และขอให้มีการยกเว้นเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการทูตในกรณีที่มีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับคดีอาญาร้ายแรง พร้อมระบุว่า “รู้สึกผิดหวังกับมาตรฐานที่ตั้งไว้สูงของบุคลากรสหรัฐด้วย”
ด้านนายบิล อิงลิช นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า เป็นเรื่องน่าเศร้าที่สหรัฐปฏิเสธที่จะยกเว้นเอกสิทธิคุ้มครองของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว และว่า ตนหวังว่าสหรัฐจะเปิดการสืบสวนของตัวเองในกรณีนี้ต่อไปด้วย