ซุปเปอร์บอร์ดเคาะทีโออาร์ทางคู่
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่กรมบัญชีกลาง มีการประชุมคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง หรือซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง พิจารณาข้อเสนอของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เกี่ยวกับทางเลือกเงื่อนไขการประกวดราคา
(ทีโออาร์) งานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ซึ่ง รฟท.เสนอให้พิจารณา 4 แนวทาง
ภายหลังการประชุม นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง กล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซุปเปอร์บอร์ดได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมรถไฟ เช่น อาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีส่วนได้เสียในการคัดเลือก และบริษัทที่เคยซื้อซองประกวดราคารถไฟทางคู่ เพื่อสอบถามว่ามีอุปสรรคอะไรบ้าง ในที่สุดสรุปว่าจะใช้ทางเลือกที่ 5 แตกต่างจาก 4 ทางเลือกที่ รฟท.เสนอมา
“มีความกังวลแนวทางที่เลือกมานั้น อาจมีผลต่อผู้ที่นำไปปฏิบัติต่อคือ รฟท. ดังนั้น จึงแจ้งไปยังประธานบอร์ดการรถไฟทางโทรศัพท์ไปแล้วว่า คณะกำกับการจัดซื้อจัดจ้างสรุปอย่างไร เพื่อให้ รฟท.นำไปพิจารณา และนัดประชุมร่วมกันในวันที่ 22 มีนาคม ที่กรมบัญชีกลางอีกครั้งหนึ่ง” นายประสารกล่าว
@ เลือกรูปแบบซอยโครงการ
นายประสารกล่าวว่า หากการประชุมวันที่ 22 มีนาคม มีความเห็นพ้องก็จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป โดยยืนยันว่าแนวทาง 5 คือ จะดีกว่าของเดิม ช่วยแก้ปัญหาติดขัดในการแข่งขันและการถูกร้องเรียน โดยจะมีการแตกย่อยโครงการ เช่น สัญญาณ รางรถไฟ งานโยธา จากของเดิมมันจะเป็นโครงการใหญ่มัดรวมกันไว้ แต่ของใหม่จะให้ย่อมมาหน่อย เพื่อแก้โจทย์ที่ผู้ประกอบการขนาดกลางเข้ามาแข่งขันไม่ได้
นายประสารกล่าวต่อว่า หากข้อสรุปชัดเจน รฟท.ไปยกร่างทีโออาร์ และเข้าขั้นตอนการเปิดประมูล ซื้อซอง ยื่นซองประมูล ต้องไปประมาณการราคากันใหม่ ส่วนราคากลางจะเปลี่ยนหรือไม่ คงตอบขณะนี้ไม่ได้
“ถ้าดูตามรูปการควรต้องยกเลิกการประมูลเดิมที่ขายซองไปแล้ว และเปิดประมูลใหม่ การประมูลอาจล่าช้าไปกว่าเดิม 1-2 เดือน แม้จะช้าแต่ถือเป็นการซื้อความรอบคอบ ทำให้มีคู่แข่งขันประมูลมากขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดี” นายประสารกล่าว และว่า แนวทางใหม่ที่เลือกนี้คาดว่าจะเกิดการล่าช้าของโครงการประมาณ 5-6 เดือน แต่เร็วกว่าทางเลือกที่ รฟท.เสนอมา ซึ่งจะล่าช้า 7-8 เดือน
@ รฟ.เด่นชัย-เชียงรายอืด-ขาดงบ
ส่วนกรณีโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 326 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 76,978.82 ล้านบาท ที่ค้างเติ่งโดยมีการศึกษาตั้งแต่ปี 2503 กระทั่งมีการปรับปรุงมาเป็นโครงการรถไฟทางคู่ ตามแผนเริ่มโครงการในปีนี้แต่ยังเริ่มโครงการไม่ได้ อาจต้องเลื่อนออกไปอีกนั้น
แหล่งข่าวจาก รฟท.กล่าวว่า โครงการนี้รฟท.ได้กำหนดรายละเอียดและแบบการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ผ่านการอนุมัติแล้วเช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงเป็นโครงการที่มีความพร้อมก่อสร้าง แต่ที่ยังไม่สามารถเดินหน้าได้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องของงบประมาณ จึงยังไม่สามารถนำเสนอที่ประชุม ครม.อนุมัติเพื่อประกวดราคาก่อสร้างได้ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวอยู่แผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่ง พ.ศ.2560 หรือแอ๊กชั่นแพลนระยะที่ 2
“ตอนนี้คงติดปัญหาเรื่องงบประมาณเพียงอย่างเดียว เพราะเรื่องอีไอเอผ่านตั้งแต่ปีที่แล้ว ค่าเวนคืนก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะแนวเส้นทางก่อสร้างส่วนใหญ่เป็นป่า” แหล่งข่าวกล่าว
