มูลนิธิผสานวัฒนธรรมห่วงคดีวิสามัญฯนักกิจกรรมลาหู่ ให้คุ้มครองพยาน-ชี้เคยเกิดเหตุคล้ายกันในพื้นที่มาก่อน

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเผยแพร่แถลงการณ์เรื่อง “ขอให้นำคนผิดมาลงโทษเยียวยาผู้เสียหาย กรณีทหารวิสามัญนักเรียนมัธยม เยาวชนต้นกล้าชาวลาหู่ คุ้มครองพยานในการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง”

โดยแถลงการณ์ระบุว่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 นายชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนชายนักเรียนมัธยม 4 มีภูมิลำเนาที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ถูกเจ้าหน้าที่ทหารยิงเสียชีวิตโดยอ้างว่าเป็นเหตุวิสามัญฆาตกรรมขณะตรวจค้นยาเสพติด โดยการปฏิบัติการครั้งนี้เป็นพื้นที่รับผิดชอบของร้อย ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.5 เหตุเกิดเวลาประมาณ 10.00 น. บริเวณด่านตรวจ บ.รินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ร่วมกับ ชสท.ที่ 9 กกล.ผาเมือง โดยเจ้าหน้าที่ทหารบริเวณด่านตรวจดังกล่าวอ้างว่าขอตรวจรถยนต์ฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีดำ ป้ายทะเบียน ขก 3774 เชียงใหม่ ขับมาตามเส้นทางจาก บ.เมืองนะ โดยมีนายพงศนัย แสงตะหล้า อายุ 19 ปี เป็นผู้ขับ และนายชัยภูมิ ป่าแส อายุ 21 ปีนั่งมาด้วย ได้ให้ความร่วมมือออกมาจากรถ แต่เกิดมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ทหารและมีการทำร้ายร่างกาย ต่อมานายชัยภูมิถูกยิงเสียชีวิตในบริเวณใกล้ด่านทหารดังกล่าว ส่วนนายพงศนัยถูกจับกุมดำเนินคดีส่งตัวเพื่อฝากขังข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสงสัยให้กับชาวบ้านและนักกิจกรรมในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากนายชัยภูมิเป็นนักเยาวชนนักกิจกรรมเครือข่ายเยาวชนต้นกล้า มีความสามารถทางดนตรีและการทำภาพยนตร์สั้น แม้ยังไม่มีสัญชาติไทย แต่ได้ทำงานเรียกร้องสิทธิในการมีสัญชาติให้กับตนเองและชุมชนด้วยแนวทางสันติวิธี อีกทั้งเป็นที่รักของพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์และภาคประชาสังคม ร่วมทำกิจกรรมทางสังคม ออกค่าย แต่งเพลง เล่นดนตรี และทำหนังสั้น รวมทั้งได้เข้าร่วมโครงการ “เด็กและเยาวชนส่งเสียงเพื่อสื่อสารสังคม” ของมูลนิธิส่งเสริมเพื่อเด็กและเยาวชน สถาบันเด็กและเยาวชน (สสย.) สะท้อนปัญหาของเด็กชนเผ่า (อ่านต่อ ปัญหาของเด็กต้อง ‘ถาม’ เด็ก-กับโครงการ ‘เด็กและเยาวชนส่งเสียงเพื่อสื่อสารสังคม’ ทางออกเยาวชนไทยยุค ‘4.0’) ส่วนนายพงศนัยก็เป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานนักเรียน โดยทั้งสองคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกัน

ทั้งนี้ ทางหน่วยงานทหารได้นำเสนอข่าวและภาพโดยอ้างว่าได้มีการตรวจค้นรถยนต์พบยาเสพติดจำนวนหนึ่ง พบมีดทำการเกษตรและมีระเบิดหนึ่งลูก อีกทั้งการวิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิเกิดจากเจ้าหน้าที่ติดตามในระหว่างนายชัยภูมิวิ่งหลบหนี ผู้ต้องหาพยายามจะนำระเบิดแบบขว้างสังหารไม่ทราบชนิดใส่เจ้าหน้าที่ จึงยิงตอบโต้ไป 1 นัดทำให้นายชัยภูมิเสียชีวิต ซึ่งอาจขัดกับพยานหลักฐานที่ปรากฏตามเนื้อตัวร่างกายของผู้ตาย และข้อมูลพยานหลักฐานที่ฝ่ายชาวบ้านกล่าวอ้าง

Advertisement

การปราบปรามยาเสพติดเป็นภารกิจสำคัญซึ่งต้องดำเนินการด้วยความเป็นมืออาชีพและงานด้านการข่าวที่แม่นยำ อีกทั้งเมื่อมีการมอบหมายภารกิจสำคัญกับเจ้าหน้าที่ทหารที่อาจไม่มีความเชี่ยวชาญในการปราบปรามยาเสพติด จนอาจนำมาสู่การใช้กำลังเกินกว่าเหตุและการกระทำการละเมิดต่อประชาชน หากขาดการตรวจสอบถ่วงดุลย่อมอาจทำให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกระทำการที่นอกกฎหมายได้ ในขณะเดียวกันสิทธิในชีวิตย่อมต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และไม่มีใครควรถูกพรากชีวิตไปโดยพลการ

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมมีความห่วงกังวลในการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว จึงขอเรียกร้องดังนี้

1.ขอให้ทางราชการดำเนินการชันสูตรพลิกศพและการไต่สวนการตายให้ได้สาเหตุการเสียชีวิต ใครเป็นผู้ทำให้เกิดการเสียชีวิตโดยเร่งด่วนและรอบคอบ และขอให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนในระดับจังหวัดเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่รอบด้านและเป็นจริง ทั้งนี้คณะกรรมการต้องเป็นที่ยอมรับของประชาชน

Advertisement

2.การสืบสวนสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าวต้องคำนึงถึงการคุ้มครองพยาน และการให้ความเป็นธรรมกับทั้งผู้เสียหาย (ผู้เสียชีวิตและผู้ต้องหาคดียาเสพติด) และผู้ถูกกล่าวหา (กรณีการวิสามัญฆาตกรรม) ด้วยความเป็นธรรม เนื่องจากเป็นคดีที่เป็นที่สนใจของสาธารณชนและเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อกลุ่มเปราะบางที่เป็นชนเผ่าพื้นเมือง และมีการนำผู้ต้องสงสัยกระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยไม่ละเว้น ดังนั้นจึงขอให้ย้ายเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่โดยด่วนเพื่อไม่ให้ข่มขู่หรือยุ่งเหยิงกับพยาน

3.ขอให้รับประกันว่าการดำเนินคดีต่อนายพงศนัย ผู้ต้องสงสัยกรณีที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าตรวจพบยาเสพติดให้โทษจำนวนหนึ่งในรถยนต์ที่ตรวจค้นขณะเกิดเหตุการณ์วิสามัญฯมีความเป็นธรรม อีกทั้งจะต้องมีการคุ้มครองพยานและรับประกันความปลอดภัยต่อนายพงศนัยในขณะถูกควบคุมตัวด้วย

4.มีข้อมูลน่าเชื่อว่ามีเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2560 เกิดเหตุวิสามัญฆาตกรรมนายอาเบ แซ่หมู่ อายุ 32 ปี โดยทหารในเขตพื้นที่รับผิดชอบของร้อย ม.2 บก.ควบคุมที่ 1 ฉก.ม.5 เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ก็ได้อ้างข้อเท็จจริงและเหตุผลในลักษณะเดียวกันว่า ได้ตรวจยาเสพติดและในระหว่างติดตามจับกุมนายอาเบที่พยายามหลบหนี นายอาเบได้ขัดขวางการจับกุมและพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ด้วยการขว้างระเบิดที่มีลักษณะคล้ายกันใส่เจ้าหน้าที่ ด้วยเหตุดังกล่าวจึงขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายอาเบ แซ่หมู่ ถึงพฤติกรรมและการปฏิบัติหน้าที่ในด้านการปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยนี้ เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับญาติและชุมชนของนายอาเบด้วยเช่นกัน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image