วันที่ 22 มีนาคม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานประชุมสัมมนาวิชาการสมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย เรื่องการปฏิรูปในความรับผิดชอบของรัฐบาลต่อกฎหมายที่จะต้องทำภายหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ว่า การปฏิรูปในส่วนของรัฐบาลที่ต้องทำหลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญนั้น เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 ได้เขียนไว้ และส่งต่อให้รัฐธรรมนูญใหม่เขียนบังคับไว้ว่ารัฐบาลไม่ได้มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินอย่างเดียว แต่มีภารกิจ 3 อย่างเพิ่มขึ้นมาที่ต้องทำ คือ การปฏิรูป ทำยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง จึงเป็นที่มาของคณะกรรมการย่อยในคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) เข้ามาทำภารกิจพิเศษนอกจากการบริหารราชการแผ่นดิน มีการใช้มาตรา 44 ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาขับเคลื่อนงานพิเศษทั้งสามอย่าง และแก้ปัญหาข้อติดขัด โดยเฉพาะปัญหาที่ติดขัด 5 ข้อ ย่อได้เป็น trump คือ เทคโนโลยีหรือองค์ความรู้ เช่น การปิดไลน์ที่ผิดกฎหมาย ติดที่กฎระเบียบ ติดขัดที่ความไม่เข้าใจ ไม่มีเงิน และติดที่บุคลากร ซึ่งการทำงานของ ป.ย.ป.แบ่งเป็น 4 คณะทำงานย่อย คือ กรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งตัดสินใจไว้เร็ว ในการเสนอเรื่องเข้า
ครม.กรรมการเตรียมการปฏิรูป เพื่อวางแผนให้คนอื่นนำไปปฏิรูปเรื่องท้องถิ่นก็รับไปทำ กรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อกำหนดเป้าหมายประเทศในระยะยาว ยกตัวอย่าง สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ได้เสนอเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ ให้แม่น้ำเจ้าพระยากลับมาใสใน 30 ปี สุดท้ายก็ต้องเลิก ซึ่งการกำหนดยุทธศาสตร์ไว้ 20 ปี เพื่อให้เห็นเป้าหมายและสร้างความมั่นใจในการลงทุน และสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้โดยต้องนำเรื่องเข้าสภาแก้ไข แต่จะไม่ทำไม่ได้ เพราะผูกมัดองค์กรอิสระทั้งหมดที่ใช้เงินหลวง ถ้าจะไม่ทำก็ต้องนับหนึ่งใหม่ และกรรมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งไม่ใช่การอภัยโทษและนิรโทษกรรม แต่คิดหาวิธีการอื่นแก้ไข
เมื่อรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้ ทุกสิ่งจะเริ่มนับหนึ่งหมดและเป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้น โดย ป.ย.ป.จะเริ่มถ่ายงานให้คนอื่นทำต่อ โดยรัฐบาลต้องเสนอกฎหมาย คือร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปฏิรูป กำหนดว่าการปฏิรูปประเทศอย่างน้อย 7 ด้าน อาทิ การเมือง ระเบียบราชการ กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การศึกษา อื่นๆ โดยประกาศใช้ภายใน 4 เดือน จากนั้น สปท.จะสิ้นสุดการทำงานทันที และร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี กำหนดคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยกำหนดงานเบื้องต้น 6 ด้าน คือ ความมั่นคง ศักยภาพในการแข่งขันกับต่างประเทศ การพัฒนากำลังคน พัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดความเหลื่อมล้ำ และกฎกระเบียบราชการ และต้องดำเนินการออกกฎหมายลูกให้เสร็จภายใน กำหนดเวลา 4 เดือน และต้องออกกฎหมายลูก 10 ฉบับ ในจำนวนนี้ต้องออกมา 4 ฉบับก่อน เช่นกฎหมายเลือกตั้ง เป็นต้น
ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่นอยู่ระหว่างการพิจารณาหารือว่าเมื่อใดจะเหมาะสม และวินวินกับทุกฝ่าย เช่นก่อนหรือหลังเลือกตั้งระดับชาติ รวมถึงจะเลือกรวมทั้งหมดพร้อมกันหรือไม่
