“กี้ร์ อริสมันต์”นอนคุก ศาลฎีกาไม่ให้ประกันคดีขวางประชุมอาเซียนปี52 ที่พัทยา

จากกรณีศาลจังหวัดพัทยาอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค2 พิพากษายืนให้จำคุกคนละ 4 ปี นายอริสมันต์ หรือกี้ร์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช.กับพวก รวม 13 คน ฐานบุกรุกเข้าไปก่อความวุ่นวาย การประชุมอาเซียน ซัมมิท ที่โรงแรมรอยัล คลิฟบีท เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552 และจำเลยทั้งหมดได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา โดยศาลจังหวัดพัทยาส่งเรื่องให้ศาลฎีกาพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราว เมื่อวันที่ 21 มีนาคม

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มีนาคม นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ในวันนี้ศาลฎีกาพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดี ประกอบกับศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ที่1-6 จำเลยที่ 10 -13 และ จำเลยที่ 15-17 คนละ 4 ปี ซึ่งต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและจำเลยดังกล่าวยังมิได้ยื่นฎีกา กรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่า หากปล่อยชั่วคราวจำเลยที่กล่าวมาจะหลบหนีจึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวให้ยกคำร้อง

นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงข้อกฎหมายการยื่นฎีกาในคดีนี้ว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น หรือแก้ไขเพียงเล็กน้อยให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับแต่โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ห้ามทั้งฝ่ายอัยการโจทก์และจำเลยทุกคน ในคดีนี้ศาลอุทธรณ์ตัดบทลงโทษเล็กน้อย จึงห้ามไม่ให้ฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง ยกเว้นว่าการฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงจะต้องปรากฏว่าผู้พิพากษาซึ่งเป็นผู้พิจารณา หรือลงชื่อในคำพิพากษาในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา หรืออัยการสูงสุดลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาว่ามีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย ให้รับฎีกานั้นไว้พิจารณา ทั้งนี้ เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 กรณีจำเลยคดีนี้ที่ยื่นขอปล่อยชั่วคราวประกอบด้วยจำเลย 1-6, 10-13 และ 15-17 ยังไม่ได้ยื่นฎีกาพร้อมกับขอให้รับรองฎีกา คดีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ประกอบกับจำเลยยังไม่ได้ยื่นฎีกา ตามกฎหมายจำเลยจะต้องยื่นฎีกาพร้อมกับคำสั่งที่อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงภายในกำหนด 1 เดือน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image