ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 141 ว่า สำนักพระราชวังเปิดประตูวิเศษไชยศรีให้ประชาชนเข้าตั้งแต่เวลา 04.50 น. จากเปิดปกติเวลา 08.00 น. วันนี้ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาต่อแถวเพื่อเข้ากราบสักการะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประชาชนต่างแต่งกายด้วยชุดสีดำสุภาพเรียบร้อย และบางส่วนใช้โอกาสในช่วงปิดเทอมพาลูกหลานมาพร้อมกันด้วย
น.ส.มณฑา ยานิยม ชาว อ.เกาะยาวน้อย จ.พังงา กล่าวว่า เดินทางพร้อมกับคณะ อบต.เกาะยาวน้อยกว่า 400 คน ออกจากเกาะยาวน้อยตั้งแต่ค่ำวันที่ 22 มีนาคม เดินทางถึงกรุงเทพฯ และเข้าต่อแถวตั้งแต่เวลา 04.00 น. ได้พาลูกสาว ด.ญ.ปาริตา ยานิยม อายุ 7 ขวบ และลูกของเพื่อนๆ ด.ช.ปริยาภัทร ด้วงเล็ก ด.ญ.สุปวีร์ ด้วงเล็ก ด.ญ.ดารินทร์ ศรีเหมาะ มาพร้อมกัน เพราะเด็กๆ อยากมาและช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมพอดี ได้เข้ากราบแสดงความเคารพและอาลัยในหลวงราว 07.40 น. เป็นครั้งแรก รู้สึกปลาบปลื้มใจ แม้ว่าการเดินทางมาจะต้องใช้ระยะเวลานานและระยะทางไกลหลายร้อยกิโลเมตรก็ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าแต่อย่างใด เพราะอยากเดินทางมาหาในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อได้เข้าไปในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ยิ่งรู้สึกคิดถึงพระองค์ท่าน แต่เชื่อว่าพระองค์ท่านยังเฝ้ามองพวกเราคนไทยทุกคนอยู่จากบนฟากฟ้า
“เป็นโอกาสดีที่ได้มากราบแสดงความเคารพและอาลัยในหลวง ร.9 เพราะพระองค์ท่านทรงงานหนักเพื่อประชาชนชาวไทยมายาวนาน ประทับใจพระจริยวัตรและพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ทรงทำให้คนไทยได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อย่างวันนี้ลูกสาวอยากมาก็พามาด้วย เพราะเป็นช่วงปิดเทอมพอดี แม้ว่าพระองค์ท่านจะไม่อยู่แล้วแต่ก็ได้สอนลูกเสมอว่าให้ยึดพระองค์เป็นแบบอย่างโดยได้น้อมนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และยังสอนให้เขารักตนเอง เพราะทุกอย่างเริ่มต้นที่เราเอง และสอนให้เขาเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์และรู้จักเก็บหอมรอมริบ” น.ส.มณฑากล่าว
ด.ช.ปริยาภัทร ด้วงเล็ก อายุ 9 ปี กล่าวสั้นๆ ว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้เดินทางมาหาในหลวงรัชกาลที่ 9 และตั้งใจเรียนหนังสือ จะเป็นเด็กดี ช่วยเหลือผู้อื่น โดยยึดพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างครอบครัวธรรมโนนลาน ได้แก่ นายสมาน ธรรมโนนลาน อายุ 45 ปี และภรรยา นางดวง ดอกศรี อายุ 45 ปี ลูกชาย ด.ช.สรายุทธ ธรรมโนนลาน ลูกสาวฝาแฝด ด.ญ.ถิรพร และ ด.ญ.ธนิดา อายุ 7 ปี เดินทางออกจากบ้านที่ปทุมธานีตั้งแต่เช้าตรู่ ตั้งใจจะมากราบสักการะพระบรมศพพร้อมกันทั้งครอบครัว โดยนายสมานทำงานอยู่ที่ตลาดพูนทรัพย์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันหยุดวันเดียวของตน ตั้งใจพาครอบครัวมากราบสักการะพระบรมศพพร้อมกัน ไม่รู้สึกเสียดายที่จะไม่ได้พักผ่อนแต่อย่างใด แต่การที่ได้มาหาพระองค์ท่าน ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นสิ่งที่เป็นบุญสูงสุด ประทับใจพระองค์ที่ทรงทำทุกอย่างเพื่อคนไทย และพระองค์ท่านยังมีโครงการตามแนวพระราชดำริมากกว่า 4,000 กว่าโครงการที่ให้ทุกคนได้นำไปสานต่อเพื่อสร้างเป็นอาชีพเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว
ด้านนางดวง ดอกศรี กล่าวเสียงสั่นเครือว่า เดินทางมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่ง 2 ครั้งก่อนหน้านี้เดินทางมาพร้อมกับกลุ่มเพื่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมาพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าประชาชนจะอยู่ใกล้ไกล ระยะทางลำบากแค่ไหน พระองค์ก็เดินทางไปถึง และยังนำความเจริญ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไปให้คนในพื้นที่เหล่านั้นด้วย
“ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงทำเพื่อคนไทยมากมาย ที่ผ่านมาไม่เคยได้ทำอะไรตอบแทนพระองค์จึงตั้งใจที่จะมาแสดงความจงรักภักดี ได้อธิษฐานถึงพระองค์ท่าน ตั้งใจจะคิดดี ประพฤติดี และจะน้อมนำแนวทางพระราชดำริของพระองค์มาใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างหลักเศรษฐกิจพอเพียง ครอบครัวของเราไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็กินอยู่อย่างพอ ไม่อยากได้อยากมีจนเกินตัว และไม่ก่อหนี้สิน เท่านี้ก็อยู่สุขสบายแล้ว และยังสอนลูกๆ ให้พอใจในสิ่งที่มีอยู่ ไม่ตามกระแส อยากได้อยากมีทุกอย่าง หรือถ้าอยากได้ก็ต้องพยายามด้วยตนเองและรู้จักเก็บออม” นางดวงกล่าว
