“ดีเอสไอ” รับคดี ร้านภูเรือคาเฟ่ ค้าประเวณี เป็นคดีพิเศษ พบ จนท.รัฐ เอี่ยว 4 นาย

พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการ ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ รักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการ ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดเลย เข้าทำการจับกุมร้านคาราโอเกะแฝงการค้าประเวณี 3 แห่งในอ.ภูเรือ จ.เลย คือ ร้านทรายทองคาราโอเกะ มันส์มันส์คาราโอเกะ และภูเรือคาเฟ่ ซึ่งจากการตรวจค้นพบหญิงบริการชาวลาวทั้งหมด 21 ราย เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า ทางสภ.ภูเรือ ได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาทำการสอบสวนกรณีดังกล่าวแล้ว โดยแยกเป็น 3 คดี ในส่วนของดีเอสไอได้พิจารณาแล้วเห็นว่า 1 ใน 3 ร้านคาราโอเกะ คือ ร้านภูเรือคาเฟ่ เข้าข่ายการการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และเข้าองค์ประกอบของพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ มาตรา 21 วรรค 1 (1) เนื่องจากมีความซับซ้อนเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

พ.ต.ท.คมวิชช์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ จึงให้แต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เป็นคดีพิเศษที่ 29/2560 พร้อมทั้งเชิญพนักงานอัยการมาร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวด้วย โดยขณะนี้ดีเอสไอได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังสภ.ภูเรือ เพื่อขอรับมอบสำนวนคดีดังกล่าว มาดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป รวมถึงจะต้องมีการย้ายผู้ต้องหาสำคัญคือร้านภูเรือคาเฟ่ 2 ราย คือ นางถาวร ศรีพรม และนางจง โสมาศรี ที่ถูกควบคุมตัวฝากขังอยู่ภายในเรือนจำที่จ.เลย มาควบคุมต่อยังเรือนจำที่กรุงเทพฯด้วย ส่วนตัวผู้เสียหายขณะนี้อยู่ในการดูแลของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

พ.ต.ท.คมวิชช์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่นั้น เนื่องจากการตรวจสอบพบบัญชีรายจ่าย สลิปการโอนเงิน และข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์ของเจ้าของร้านกับเจ้าหน้าที่รัฐบางคน ทางดีเอสไอจึงได้ทำการจึงได้ร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในการแกะรอย สืบเนื่องจากการที่ดีเอสไอเคยเข้าทำการตรวจค้นจับกุมร้านคาราโอเกะที่มีลักษณะของการค้าประเวณีที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่จ.หนองคาย มาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวตรงกับที่มีอ.ภูเรือ เราจึงสามารถขยายผลได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องที่ จ.หนองคาย มาถึงที่ อ.ภูเรือ เป็นใครบ้าง

พ.ต.ท.คมวิชช์ กล่าวด้วยว่า โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด 4 นาย โดยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกพื้นที่ อ.ภูเรือ 1 นาย ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 นาย และตำรวจภูธรภาค 4 อีก 1 นาย ซึ่งในส่วนนี้ ป.ป.ท. ก็ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนแล้ว และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนทางวินัยแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวน ทั้งนี้ เราจะต้องรายไปยังคณะทำงานของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งแต่งตั้ง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยมาตรการทางบริหารในการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ด้วย ส่วนที่เหลือเราก็จะต้องดำเนินการเกี่ยวกับคดีฟอกเงินด้วย

Advertisement

“สำหรับสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ในประเทศไทย ปัจจุบันมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น แต่ทางผู้ประกอบการก็ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการให้มีความซับซ้อนมากขึ้นจากเดิม แต่โดยภาพรวมแล้วถือว่าดีขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐมีการทำงานแบบบูรณาการจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง พม. เอนจีโอ ตำรวจ และดีเอสไอ”พ.ต.ท.คมวิชช์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image