เหตุเกิด ที่สภ.เมืองตรัง จ.ตรัง พระมหาศักย์ศรณ์ คงผล ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์อยู่ที่วัดคลองน้ำเจ็ด ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.มานพ (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นทีี่ จ.ตรัง ล็อกคอใช้มือตบศีรษะ 2 ครั้ง แล้วยังพยายามถลกจีวรออกก่อนร้องตะโกนบอกชาวบ้านกล่าวหาว่าเป็นพระปลอม
พระมหาศักย์ศรณ์ ให้การว่าเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ขณะที่อาตมากำลังเดินบิณฑบาตรอยู่บนถนนวิเศษกุล ในเขตเทศบาลนครตรัง จู่ๆด.ต.มานพ ก็ขับรถเก๋งสีขาวมาจอดในสภาพคล้ายคนมึนเมาสุรามีกลิ่นเหล้าคละคลุ้ง นำเงิน 500 บาทมาใส่บาตร แต่เมื่ออาตมาบอกว่ามากเกินไป ทำให้ด.ต.มานพ เกิดความไม่พอใจใช้มือซ้ายล็อกคอและใช้มือขวาตบศีรษะ 2 ครั้ง ก่อนที่จะพยายามถลกจีวรออก พร้อมบอกกับชาวบ้านที่ยืนดูเหตุการณ์ในบริเวณนั้นว่า อาตมาเป็นพระปลอม มาจากวัดสาริการาม ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลโคกหล่อ อ.เมืองตรัง แม้อาตมาจะชี้แจงว่าตนเป็นพระอุปัชฌาย์และเป็นพระจริง จำพรรษาอยู่ที่วัดคลองน้ำเจ็ดไม่ใช่วัดสาริการาม แต่ด.ต.มานพ ก็ยังไม่เชื่อและคงพยายามถลกจีวรออกอีกครั้ง จนมีชาวบ้านเข้ามาห้ามและพาอาตมามาที่สภ.เมืองตรัง ขณะที่ด.ต.มานพ ก็ยังตามมาจะเอาเรื่องอีก ทำให้ตำรวจต้องควบคุมนำตัวออกไปเพื่อสงบสติอารมณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาภรรยาและพี่ชายของด.ต.มานพ เดินทางมาที่สภ.เมืองตรัง ก่อนเข้าขอโทษพระมหาศักย์ศรณ์แทนด.ต.มานพ ทำให้พระมหาศักย์ศรณ์ยอมไม่เอาเรื่องแต่ขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และให้ด.ต.มานพไปกราบขอขมาตัวเองและเจ้าอาวาสวัดคลองน้ำเจ็ดพร้อมให้สัญญาว่าต่อไปจะไม่เมาสุราและประพฤติอย่างนี้อีก ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ขอให้เป็นบทเรียน ซึ่งพี่ชายของด.ต.มานพ ก็รับปากว่าจะพาด.ต.มานพ ไปขอขมาภายใน 1-2 วันนี้ จากนั้นพ.ต.ท.ประเสริฐได้เปรียบเทียบปรับด.ต.มานพ เป็นเงิน 1,000 บาทในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นแล้วปล่อยตัวกลับไป
