‘ปลัด มท.’ ศูนย์ดำรงธรรมแก้ปัญหาร้องเรียนได้แล้วกว่า 2.9 ล้านเรื่อง

“ปลัด มท.” ยกศูนย์ดำรงธรรมเป็นส่วนเติมเต็มส่วนราชการ ชี้แก้ปัญหาร้องเรียนได้แล้วกว่า 2 ล้านเรื่อง จ่อยกฐานะของหัวหน้ากลุ่มศูนย์ฯ ให้เทียบเท่ากับหัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์

วันที่ 24 มีนาคม 2560 ที่โรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและสถาบันพระปกเกล้า จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ” มีปลัดจังหวัด นายอำเภอ ผู้แทนจากทุกจังหวัดเข้าร่วมจำนวน 182 คน โดยนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติงานของศูนย์ดำรงธรรมว่า การดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมทั้งระดับจังหวัด ระดับอำเภอ เป็นไปตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 96/2557 ทั้งนี้ ศูนย์ดำรงธรรมถือเป็นหน่วยงานหนึ่งที่เติมเต็มการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในระดับพื้นที่ และเติมเต็มการทำงานให้ส่วนกลาง ภูมิภาค และท้องถิ่นในระดับพื้นที่อย่างแท้จริง โดยมอบหมายผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าศูนย์

นายกฤษฎากล่าวว่า บทบาทหลักของศูนย์ดำรงธรรมมีอยู่ 3 ประการ คือ 1.มีหน้าที่เข้าแก้ไขปัญหาในจังหวัดและอำเภอโดยตรง ให้เร็วและกระชับ 2.มีหน้าที่ส่งต่อปัญหาให้หน่วยงานที่เหนือกว่าในพื้นที่เพื่อรับรู้ รับทราบ และแก้ปัญหา ตั้งแต่เปิดศูนย์ฯ มีเรื่องร้องเรียนกว่า 3.2 ล้านเรื่อง แก้ปัญหาได้ 2.9 ล้านเรื่อง ขณะนี้ได้ให้จังหวัด อำเภอ วิเคราะห์ว่าที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้อีก 1 ล้านกว่าเรื่องปัญหาอยู่ที่อะไร ขอให้ผวจ. ปลัดจังหวัด และผู้ปฏิบัติงาน รายงานเข้ามาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป 3.ทำหน้าที่เหมือนศูนย์ประชาสัมพันธ์จังหวัด รอบรู้เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ทั้งนี้ ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ฯ ต้องรู้ข้อกฎหมาย ข้อระเบียบต่างๆ พอสมควร ควรเป็นข้าราชการที่มีประสบการณ์ ต้องรู้โครงสร้างของระบบราชการ ต้องเป็นผู้ประสานงานที่ดีและเก่ง หากเป็นคนรุ่นใหม่ต้องกระฉับกระเฉง และพร้อมเรียนรู้งาน

“ที่ผ่านมามักมีเจ้าหน้าที่บ่นว่าทำงานในศูนย์ฯเหนื่อยทุกข์ยาก ความก้าวหน้าไม่มี เรากำลังจะยกฐานะของหัวหน้ากลุ่มศูนย์ดำรงธรรมให้เทียบเท่ากับหัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์ งานอำนวยการของสำนักงานจังหวัด จะยุบเรื่องการติดตามให้อยู่ในส่วนของกลุ่มงานยุทธศาสตร์ และยกฐานะของศูนย์ดำรงธรรมเป็นกลุ่มงานขึ้นมา หัวหน้าเป็นระดับชำนาญการพิเศษ จะทำให้เติบโตได้ และกำลังจะขออนุมัติ ก.พ.ว่าคนทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์ฯ ให้ใช้ได้ 2 ตำแหน่ง ทั้งนิติกรชำนาญการพิเศษหรือเจ้าหน้าที่วิเคราะห์และนโยบายชำนาญการพิเศษ ถ้าใครเป็นนิติกรมาหรือมีวุฒิทางนี้ก็จะได้เงินเพิ่มประจำตำแหน่งด้วย และการทำหน้าที่ในศูนย์ยังได้บุญ เพราะเป็นการช่วยเหลือชาวบ้าน” นายกฤษฎากล่าว

Advertisement

นายกฤษฎากล่าวว่า ขอย้ำอีกครั้งว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต้องการให้ศูนย์ฯ รวบรวมปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ส่งเป็นรายงานขึ้นมา และแยกให้ชัดเจนว่าปัญหาที่แก้ไม่ได้เกิดจากเรื่องใด ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยให้ ผวจ.มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือปลัดจังหวัด หรือหัวหน้าสำนักงานจังหวัด คนใดคนหนึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบงานของศูนย์ฯ โดยตรง ให้มีการติดตามว่าแต่ละสัปดาห์ประชาชนร้องมามีกี่เรื่อง เสร็จแล้วกี่เรื่อง ไม่เสร็จเพราะอะไร เพื่อเป็นการกระชับการทำงาน และอยากให้มีชุดปฏิบัติการประจำศูนย์ดำรงธรรมออกทำงานในพื้นที่ตรวจสอบเรื่องที่ถูกร้องเรียนซ้ำแต่ยังไม่ได้รับการแก้ปัญหา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image