ชาวเน็ตล่ารายชื่อ ขอ “แม่ทัพภาคที่ 3” เปิดภาพวงจรปิดความจริงกรณี “ชัยภูมิ ป่าแส”

หลังจากกรณีทหารจุดตรวจสกัดยาเสพติดที่บ้านรินหลวง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ก่อเหตุวิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ นักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวเรียกร้องแก้ปัญหาเยาวชนไร้สัญชาติ โดยอ้างว่านายชัยภูมิพยายามขัดขืนต่อสู้จะปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่หลังถูกตรวจพบว่ามียาเสพติด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตส่วนหนึ่งได้เริ่มแคมเปญรณรงค์เรียกร้องให้ แม่ทัพภาคที่ 3 พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ เปิดกล้องความจริง ชัยภูมิ ป่าแส ในเว็บไซต์ Change.org โดยผู้ใช้อินเตอร์เน็ตชื่อว่า Natee Valunchapuk จากเมืองเทศบาลนครอุดรธานี ประเทศไทย อธิบายว่า

“เนื่องจากเรื่องราวของ นายชัยภูมิ ป่าแส ที่ถูกวิสามัญในคดีครอบครองยาเสพติด และพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วยการปาระเบิด ยังเป็นที่กังขาในสังคม เนื่องจากด่านตรวจนี้มีกล้องวงจรปิด แต่กลับยังไม่ถูกนำมาเปิดเผยสู่สาธารณชน
เรื่องราวนี้สร้างความลำบากใจไม่น้อยให้กับสาธารณชน เพราะเนื่องจาก นายชัยภูมิ ป่าแสถูกวิสามัญโดยเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่สามารถยืนยันความจริงใดๆได้นอกจากคำให้การปากเปล่าของแต่ละฝ่ายอันไม่สามารถสร้างความเชื่อถือได้เท่าที่ควร
และจากหัวข้อข่าวได้อ้างอิงว่า “พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า การตั้งด่านเป็นการตั้งด่านปกติ สามารถตรวจสอบได้จากกล้องวงจรปิด CCTV” นั้นก็หมายความว่า พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ มีอำนาจการตัดสินใจในการเปิดเผยข้อมูลในกล้องได้
ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยคลายข้อกังขาคือการเปิดเผยข้อมูลของกล้องวงจรปิดทั้งสองตัวอย่างโปร่งใส เพราะไม่เช่นนั้นแล้วถ้าเกิดประชาชนผู้บริสุทธิ์คนใดๆเกิดถูกกระทำโดยรัฐไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ ก็มีแนวโน้มว่าประชาชนจะไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างแท้จริง
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย เพราะถ้าประชาชนไม่อาจตรวจสอบความจริงจากกล้องได้แล้ว ไม่เท่ากับว่ารัฐกำลังสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนด้วยการที่เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจหน้าที่ในการปิดบังหลักฐานได้หรอกหรือ ดังนั้นเพื่อให้รัฐมีความเป็นธรรมทั้งต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่ ความจริงจากกล้องวงจรปิดต้องถูกเปิดเผย
ถ้ารูปการณ์สามารถพิสูจน์ได้ว่า นายชัยภูมิ ป่าแส กระทำผิดจริง ก็จะทำให้ข้อกังขาในสังคมลดลง แต่ถ้า นายชัยภูมิ ป่าแส มิได้กระทำผิดจริง รัฐควรแสดงความรับผิดชอบต่อการตายของ นายชัยภูมิ ป่าแส เพื่อให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกันว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแปที่ทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ต่างอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน อันเป็นรากฐานที่สำคัญที่ทำให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยในสังคมนี้”

ซึ่งหลังจากได้เริ่มแคมเปญรณรงค์ไปแล้ว นับ 500 คนในเวลาเพียง 18 ชั่วโมงเท่านั้น โดยต้องการเสียงสนับสนุนให้ครบ 1000 เสียง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image