สุจิตต์ วงษ์เทศ : มหาวิทยาลัยไทยมีได้แน่หรือ? ความยุติธรรมและธรรมาภิบาล

กระทรวงอุดมศึกษาที่จะจัดตั้งใหม่ (โดยแยกจากกระทรวงศึกษาธิการ) รมต.ศธ. กล่าวถึงโครงสร้างกระทรวงใหม่ ต้องเอื้อให้เกิดความยุติธรรม รวมถึงต้องวางแนวทางแก้ปัญหาธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัย (มติชน ฉบับวันอังคารที่ 21 มีนาคม 2560 หน้า 17)

ในข่าวไม่ได้บอกว่า รมต.ศธ. จะทำยังไง? แบบไหน? ฯลฯ เลยเชื่อว่าน่าจะเป็นแค่คาถาเหมือนท่องนโมแล้วรับศีลตามประเพณี แต่ไม่ปฏิบัติตามนั้น หรือปฏิบัติไม่ครบ เพราะทำไม่ได้จริง ดังจะเห็นตัวอย่างพฤติกรรมไม่ยุติธรรมและไม่ธรรมาภิบาลของอาจารย์มหาวิทยาลัย ดังนี้

1.ครูบาอาจารย์มหาวิทยาลัย มีบางพวกบางฝูงร่วมกันปิดกั้นไม่ให้นักศึกษามีเสรีภาพทางวิชาการ โดยห้ามอ่าน ห้ามศึกษา ห้ามอ้างอิงจากหนังสือที่มีแนวคิดตรงข้ามอาจารย์ผู้สอน

แม้กระทั่งแนวคิดทฤษฎีระดับสากล ที่มหาวิทยาลัยทั่วโลกยกย่อง แล้วแบ่งปันข้อมูลข่าวสารเหล่านั้นอย่างกว้างขวางสู่นักศึกษา แต่ครูบาอาจารย์พวกนี้ไม่รับรู้ แล้วยังประกาศห้ามนักศึกษานำเข้า

Advertisement

เหมือนการศึกษาย้อนยุคก่อนอยุธยา สำนักสุกกทันตฤๅษี เขาสมอคอน เมืองละโว้ ของพระร่วง กรุงสุโขทัย กับ พญางำเมือง เมืองพะเยา

2.ครูบาอาจารย์บางฝูงรับงานมีรายได้พิเศษจากภายนอก เป็นงานส่วนตัว โดยอ้างชื่อสถาบันว่าทำเพื่อวิชาการ

แต่ขณะเดียวกันปิดกั้นนักศึกษามิให้ทำกิจกรรมทางวิชาการ ไม่ว่าในมหาวิทยาลัย หรือนอกมหาวิทยาลัย แม้แสดงความคิดเห็นก็ทำไม่ได้ ถ้าพบจะถูกคาดโทษ ลงโทษ มีผลถึงไม่ผ่านการศึกษา

มหาวิทยาลัยในสากลเป็นพื้นที่เปิดกว้างให้ลองผิดลองถูก มีเสรีภาพทางวิชาการ

แต่มหาวิทยาลัยไทยถูกครูบาอาจารย์ฝูงหนึ่งมีความสามารถส่วนตัวพิเศษสร้างกะลาใบใหญ่ ใช้ปิดกั้นเสรีภาพทางวิชาการได้ง่ายๆ ด้วยความเห็นดีเห็นงามจากคณบดีและอธิการบดี

เท่ากับครูบาอาจารย์และผู้บริหารมหาวิทยาลัยเหล่านี้ แสดงตนสนับสนุนเผด็จการทหารอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู เพื่อประโยชน์ของตนและพรรคพวกตน

ส่วนคนรับเคราะห์ คือ นักศึกษาและสังคมไทยโดยรวม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image