วันที่ 24 มีนาคม เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดตรัง ทางเครือข่ายปฎิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัดกว่า 20 คน นำโดย นายบุญ แซ่จุ่ง ผู้ประสานงานเครือข่ายปฎิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด นายสมนึก ผุดนวล นางสาวบัณฑิตา อย่างดี สมาชิกเครือข่าย เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมจากทางจังหวัดกรณีที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด สนธิกำลังกว่า 100 นาย บุกเข้าทำลายสวนยางพาราของนาง ชฎา ชูทิ้ง ด้วยการตัดไม้ กาน ยาฆ่าตอไม้ยางพารา ในพื้นที่ หมู่4 ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เนื้อที่กว่า 6 ไร่ โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
โดยการหารือครั้งนี้ นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้มอบหมายให้ นายสายัณห์ อินทรภักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เข้ารับฟังคำร้องเรียน พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย นายเปรื่อง รัตนฉวี รักษาการทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม นายสนิท องคศารา ผอ.สนง.บริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 นายประไพศักดิ์ สุขย้อย หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด พ.ต.อ.วดล คงพิพัฒน์กุล ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่และสมาชิกเครือข่ายฯเข้าร่วมประชุมหาข้อยุติร่วมกัน
นายบุญ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ตนและสมาชิกเครือข่ายปฎิรูปที่ดินกว่า 20 คน เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดตรัง เพื่อร้องขอความเป็นธรรมจาก นายศิริพัฒ เนื่องจากสมาชิกฯได้รับความเดือดร้อนจากการปฎิบัติหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด เข้าไปตัดฟัน ถอน และใส่ยาฆ่าตอไม้ยางพาราซึ่งเป็นสวนยางพาราของ นางชฎา ชูทิ้ง ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งที่พื้นที่ของนางชฎา อยู่ระหว่างการเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิผู้ยากไร้ตามคำสั่งของ คสช.ที่ 66/2557 ที่จังหวัดตรวจสอบแล้ว และอยู่ในพื้นที่โฉนดชุมชนบ้านลำพิกุล อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง
นายบุญ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสมาชิกเครือข่ายฯยึดตามนโยบาลของรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา พร้อมทั้งยึดตามคำสั่งของ คสช.ที่ 66/2557 ที่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง แต่ว่าจู่ๆทาง จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเข้าไปลอบฟันสวนยางพาราของชาวบ้านได้อย่างไร ถามว่ามีการกระทำที่ผิดต่อคำสั่ง คสช.หรือไม่นั้น ก็ไม่ เรื่องนี้ตนเป็นห่วง ว่าจะให้ชาวบ้านไปยึดถือกฎหมายฉบับอะไรในรัฐถาธิปัตย์ จะให้ชาวบ้านไม่ยึดกฎหมายหรือ ในเมื่อชาวบ้านยึดและปฎิบัติตามกฎหมายมาตลอด แต่เกิดความเดือดร้อนและเสียหายขึ้น
“ผมฝากมายัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี จะเข้ามาดูแลเยียวยาให้กับชาวบ้านอย่างไร อยากทราบว่า ฯพณฯนายกรัฐมนตรี ทราบเรื่องหรือยังว่าเกิดประเด็นปัญหานี้ขึ้น คำสั่งของท่านไม่มีความหมายเลย ทั้งนี้พื้นที่สวนยางพาราของชาวบ้านเข้ากระบวนการพิสูจน์สิทธิ66/2557 จะต้องไม่สร้างผลกระทบ อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการแก้ไขกฎหมาย ออกโฉนดชุมชน ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านใครจะเป็นคนรับผิดชอบ” นายบุญ กล่าวและว่า การประชุมหารือในวันนี้ได้ข้อสรุปอย่างไร ให้ทางจังหวัดรายงานไปยังนายกรัฐมนตรีด้วย เนื่องจากทางเครือข่ายฯจะเดินทางขึ้นกรุงเทพในวันที่ 30 มีนาคมนี้ จึงอยากเรียนถามนายกว่า ทางเครือข่ายฯยึดถือตามกฎหมายตามนโยบายของรัฐบาลแล้ว แต่ทำไมจึงมาทำลาย ประการสำคัญการโค่นแล้วเอายาฆ่าตอไปราด สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศถ้าเกิดตายถึงราก ในขณะที่ฝนตกลงมา น้ำจะชะล้างน้ำยาฆ่าตอต่อระบบนิเวศอย่างมาก ตนขอว่าอย่างใช้สารเคมีได้หรือเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเครือข่ายฯเองก็มีการรณรงค์ห้ามใช้สารเคมีอยู่แล้ว โดยเฉพาะยาฆ่าตอไม่สมควรนำมาใช้เป็นอย่างยิ่ง พร้อมทั้งอยากฝากมายังรัฐบาลว่าให้มีคำสั่งห้ามใช้ยาฆ่าตอทำลายต้นยางพาราอีกเลย
ด้านนายสายัณห์ กล่าวว่า วันนี้ทางเครือข่ายปฎิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัดเดินทางมาหารือกรณีที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้มีการตัดฟันสวนยางพาราของพี่น้องเครือข่ายฯเทือกเขาบรรทัด ด้วยการหารือกันว่า ในการที่จะดำเนินการ หรือแม้กระทั้งในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วว่าในดำเนินไปตามคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 เจ้าหน้าที่จะต้องประชาสัมพันธ์หรือแจ้งให้พี่น้องทราบให้เป็นไปตามขั้นตอน เช่นนำใบประกาศไปที่ ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปท. หรือแปลงที่จะเข้าไปดำเนินการ
“ในกรณีของนางชฎา ที่ประชุมมีมติร่วมกันว่าจะให้ความช่วยเหลือระยะต้นคือให้มีรายได้ไม่น้อยกว่าที่ได้จากการกรีดยาง โดยการหางานให้ทำ ส่วนเรื่องของการหาที่ทำกินให้ระยะยาวนั้นก็จะรอมติของรัฐบาลที่จะประชุมกันในวันที่ 30 มีนาคม นี้ว่าจะมีมติอย่างไรก็ให้เป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งทางจังหวัดจะนำผลสรุปมติที่ประชุม เสนอรายงานให้ นายกรัฐมนตรีทราบก่อนวันที่ 30 มีนาคมนี้” นายสายัณห์ กล่าว
