9ผู้ต้องหาซัดทอดโกตี๋อย่างไร! ใครเป็นใครชุมนุมปี53 พร้อมตอบคำถาม”แผนธรรมกาย”(คลิป)

เจ้าหน้าที่ทหารคุมตัว 9 ผู้ต้องหา เครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุช หรือ โกตี๋ อดีตแกนนำ นปช. มาสอบสวนที่กองปราบปราม หลังถูกตำรวจและทหารควบคุมตัว ขณะตรวจบ้านพักหลังหนึ่งย่านลำลูกกา และขยายผลไปตรวจค้นเป้าหมายต่างๆ รวม 9 เป้าหมาย ในพื้นที่ 7 จังหวัด เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมารับมอบตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อเช้าวันที่ 24 มีนาคม 2560

ส่วนขั้นตอนหลังจากรับมอบตัวตำรวจ จะตรวจร่างกายโดยแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ และจะมีการสอบปากคำ บันทึกประวัติ ก่อนจะแจ้งข้อหาครอบครองอาวุธสงครามโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาอื่นๆ จากนั้นจะส่งตัวผู้ต้องหาไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีต่อ เนื่องจากคดีนี้มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2553

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ตำรวจพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับนายวุฒิพงศ์ หรือ โกตี๋ ที่ขณะนี้หลบหนีอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน และถูกออกหมายจับในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และยังเหลือผู้ต้องหาอีก 4 คน ซึ่งตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรไปแล้ว

ภายหลังสอบปากคำนายธีรชัย หรือ ระพิณ อุตรวิเชียร นายวันไชยชนะ ครุฑไชยันต์ ว่าที่ร้อยตรีสุริยศักดิ์ ฉัตรพิทักษ์กุล นายประเทือง อ่อนละมูล นายบุญส่ง คชประดิษฐ์ นายอุดมชัย นพสวัสดิ์ หรือแสนรัก จ่าสิบเอกธนโชติ วงศ์จันทร์ชมภู นางปาลิดา เรืองสุวรรณ นางสาวเอมอร วัดแก้ว 9 ผู้ต้องหา เครือข่ายนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุช หรือ โกตี๋ อดีตแกนนำ นปช. ที่ถูกตำรวจและทหารจับหลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 7 จังหวัด พร้อมตรวจยึดอาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และยาเสพติด หลังสืบสวน สอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่าผู้ต้องหามีการร่วมกันประชุมวางแผนหลายครั้งเพื่อใช้กำลังต่อสู้ขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานหากมีการนำกำลังเข้าตรวจค้นและยึดพื้นที่วัดพระธรรมกาย

โดยในวันนี้(24มีนาคม)ตำรวจได้จัดแพทย์ตรวจร่างกายผู้ต้องหาไม่พบความผิดปกติ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย และสอบปากคำผู้ต้องหาโดยมีทนายจากสภาทนายความร่วมด้วย ซึ่งจากนี้จะส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากรายละเอียดของคดีมีความเชื่อมโยงกับการชุมทางการเมือง เมื่อปี 2553 ด้วย และ ดีเอสไอเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง

ด้านนายธีรชัย ผู้ต้องหายอมรับว่ารู้จัก นายโกตี๋ เมื่อปี 2556 เนื่องจากทำงานสถานีวิทยุชุมชนเรดการ์ด ส่วนอาวุธปืน ที่ตรวจยึดได้เป็นของนายโกตี๋ ที่ฝากไว้หลังนำเงินบริจาคของประชาชนในช่วงการชุมนุมมาจัดซื้อ เพื้อใช้ต่อต้านกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย และเดือนก่อนได้ไปพบนายโกตี๋ ที่อยู่ระหว่างหลบหนี ที่ประเทศเพื่อนบ้าน ใช้เวลาพูดคุยเพียง 1 ชั่วโมง โดยนายโกตี๋ ระบุว่ามีอาวุธปืนเก็บไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ด้วย พร้อมอ้างว่านายโกตี๋ มีการติดต่อทางโทรศัพท์ กับนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บ่อยครั้งด้วย นอกจากนี้นายธีรชัย ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่รวบรวมมวลชนจนเกิดเหตุปะทะกับผู้ชุมนุม กปปส. ที่แยกหลักสี่แต่ไม่ได้ใช้อาวุธสงครามในเหตุดังกล่าว

Advertisement

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมในการดำเนินคดีซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 9 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาแตกต่างกัน อาธิ ครอบครองอาวุธปืน ฯ / อั้งยี่ ซ่องโจร และข้อหาอื่น โดยจะส่งตัวให้ดีเอสไอทำการสอบสวนต่อในวันนี้ก่อนส่งฝากขังศาลอาญาในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้(25มี.ค.)ยกเว้นว่าที่ร้อยตรีสุริยศักดิ์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความมั่นคงโดยจะส่งตัวให้ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ดำเนินการต่อ

สำหรับคดีนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับและหลบหนีอีก 4 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงนายโกตี๋ ด้วย อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image