สรรหา มาเล่า…วิดีโอเกม มีส่วนทำให้วัยรุ่นมีทัศนคติกีดกันทางเพศ

 

 

 

Advertisement

 

 

 

Advertisement

 

วัยรุ่นที่ใช้เวลาเล่นวิดีโอเกมมาก ยิ่งมีแนวโน้มจะมีทัศนคติกีดกันทางเพศ และมีความคิดเหมารวมในเรื่องเพศมากขึ้นตามไปด้วย

นี่เป็นผลการศึกษาที่ได้จากการตรวจสอบศึกษาในวัยรุ่นที่คลั่งไคล้วิดีโอเกมจำนวนกว่าหมื่นคน โดยทีมนักวิชาการจากมหาวิทยาลัย Savoie Mont Blanc University ในฝรั่งเศส และมหาวิทยาลัยไอโอวา ของสหรัฐอเมริกา ที่เผยแพร่ในวารสารฟรอนเทียร์ อิน ไซโคโลจี ที่ศึกษาเปรียบเทียบระยะเวลาที่วัยรุ่นราว 13,520 คนใช้ในการเล่นวิดีโอเกม และทัศนคติที่พวกเขามีต่อผู้หญิง และบทบาททางเพศต่างๆ โดยพบว่า ระยะเวลาในการเล่นวิดีโอเกม มีส่วนสัมพันธ์กับระดับความรู้สึกกีดกันทางเพศ และการเหมารวมทางเพศ โดยวัยรุ่นที่ใช้เวลาเล่นวิดีโอเกมมากชั่วโมง ก็ยิ่งมีทัศนคติดังกล่าวมากขึ้นตามไปด้วย

“การกีดกันทางเพศมีให้เห็นทั้งในสื่อโฆษณา ในโทรทัศน์ ในภาพยนตร์ หรือแม้แต่วิดีโอเกมก็ไม่มีข้อยกเว้น และจากการวิเคราะห์เนื้อหาในวิดีโอเกมที่ได้รับความนิยม ก็แสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงมักได้รับบทบาทที่เป็นรอง ถูกกด อย่างเช่นเป็นเจ้าหญิงที่ต้องการความช่วยเหลือ หรือไม่ก็เป็นวัตถุทางเพศของการต่อสู้ แย่งชิง” โลรองต์ แบกู จากมหาวิทยาลัยเกรอน็อบส์ แอลป์ หนึ่งในทีมนักวิชาการที่ศึกษาเรื่องนี้บอกกับเอเอฟพี

โลรองต์กล่าวว่า ถึงแม้ผู้หญิงจะตกเป็น “เหยื่อหลัก” ของการถูกเหมารวม แต่ผู้ชายก็ได้รับผลกระทบนี้ด้วยเช่นกัน โดยถูกเหมารวมว่าต้องแอ๊กทีฟ คล่องแคล่ว ต้องมีอาวุธ และต้องมีมัดกล้าม จากรายงานของสมาคมซอฟต์แวร์บันเทิงเมื่อปี 2557 พบว่าเกือบครึ่งของผู้เล่นวิดีโอเกมเป็นผู้หญิง และในการศึกษาครั้งนี้ได้เก็บข้อมูลในเด็กชาย-เด็กหญิงในสัดส่วน 51% และ 49% โดยผลลัพธ์ที่ได้พบการกีดกันทางเพศในเด็กผู้ชายสูงกว่าเด็กผู้หญิง ส่วนระยะเวลาในการเล่นวิดีโอเกมมีตั้งแต่ 1 ชั่วโมง ถึง 10 ชั่วโมง/วัน

ทั้งนี้ จากผลการศึกษาครั้งก่อนๆ ยังพบด้วยว่า แม้แต่การเล่นวิดีโอเกมเพียงไม่กี่นาที ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดทัศนคติกีดกันทางเพศได้ แต่ผลการศึกษาใหม่ล่าสุดนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่น โดยได้สอบถามวัยรุ่นอายุระหว่าง 11-19 ปี ในเมืองลียง และเมืองเกรอน็อบส์

อย่างไรก็ตาม โลรองต์ก็เตือนว่า แม้ตัวเลขที่ได้จะมีความสัมพันธ์ เชื่อมโยงอย่างมีนัยสำคัญระหว่างวิดีโอเกมและการกีดกันทางเพศ แต่ถึงกระนั้นอิทธิพลของวิดีโอเกมที่มีต่อทัศนคติของวัยรุ่นก็ยังมีข้อจำกัด อีกทั้งในรายงานนี้ผู้ศึกษาวิจัยยังระบุว่า ความเชื่อทางศาสนาเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อเรื่องของทัศนคติกีดกันทางเพศมากกว่า ทั้งยังว่า โทรทัศน์ส่งผลกระทบน้อยกว่าวิดีโอเกม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image