เอ็นจีโอ โต้บิ๊กตู่ บอก”แม้กระดูกคนละเบอร์ แต่ไม่กลัวท่านสักนิด อย่าเล่นบทข่มขู่กันเลย”

นายบรรจง นะแส องค์กรพัฒนาเอกชน โพสเฟสบุ๊ค ตอบโต้นายกรัฐมนตรี ที่พูดถึงเอ็นจีโอในรายการคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา

รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อันที่ 25 มีนาคมนี้ นายบรรจง นะแส ประธานคณะกรรมการประสานองค์กรพัฒนาเอกชนหรือ กป.อพช. ได้เขียนข้อความโพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า บรรจง นะแส ตอบโต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่พูดถึงเอ็นจีโอในทางที่ไม่ดีมากนัก ในรายการคืนวันสุขฯเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ทำการบ้านให้ท่านนายกรัฐมนตรีครับ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาท่านนายกรัฐมนตรีได้พูดถึงองค์กรพัฒนาเอกชน(NGOs)อยู่หลายประเด็น เท่าที่ฟังจากน้ำเสียงและท่าทีสำหรับผมถือว่าท่านไม่ถึงกับใช้ท่าทีดูถูกเหยียดหยามหรื่อใส่ร้ายป้ายสีอะไรมากนัก ถ้าเปรียบเทียบกับอดีตนายกรัฐมนตรีอีก2ท่านที่พวกเราเคยโดนมาก่อนเช่นคำพูดแรงๆที่ว่า “หากินกับคนจน” “พวกนายหน้าค้าความจน” “พวกรับเงินต่างชาติ”ฯลฯ…และถ้าจำกันได้อดีตนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งถึงขนาดสั่งให้ตรวจสอบทรัพย์สินNGOsหลายคนรวมทั้งผมด้วย ทำเอาขายหน้ากันทั้งบ้านทั้งเมือง(เพราะแต่ละคนไม่ได้ร่ำรวย)แค่ทำให้เสียเครดิต มีพรรคพวกจำนวนหนึ่งฟ้องกลับข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสียชื่อเสียง ศาลตัดสินให้หน่วยงานราชการต้องชดใช้ข่าวว่าพรรคพวกนำเงินที่ได้ไปเลี้ยงหมาจรจัดหรือไม่ก็สนับสนุนองค์กรกุศล ไม่มีใครนำเงินที่ได้ไปใช้แต่อย่างใด

ประเด็นที่ท่านนายกประยุทธพูดถึงยังอยู่ในประเด็นที่สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้เพราะท่านไม่ได้มีเป้าหมายดิสเครดิตหรือมุ่งทำร้ายทำลายกัน แต่เพราะยืนกันอยู่คนละจุด/คนละบทบาทหน้าที่และที่สำคัญความเห็นต่างในเรื่องเป้าหมายและทิศทางของคำว่า “พัฒนา” รวมถึง “วิธีการที่จะนำไปสู่เป้าหมาย” ผมคิดว่าแค่2ประเด็นนี่ก็ต้องใช้เวลาถกเถียงกันไม่น้อยกว่าที่จะยอมรับกันได้ ไม่ต้องรวมถึงปัญหาที่ดำรงอยู่ในสังคมไม่ว่าปัญหาทางโครงสร้าง เศรษฐกิจสังคมและการเมือง ปัญหาการศึกษา ปัญหาความเลื่อมล้ำ/ความยากจน ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมฯลฯ

การใช้คำพูดที่ว่า “ขัดขวางการพัฒนา” “ทำตัวเป็นจรเข้ขวางคลง” ..ฯลฯ ดูจะรุนแรงพอสมควรแต่สำหรับผมยังรับได้เพราะเป็นความเห็นที่แตกต่าง ไม่ถึงกับเป็นศรัตรูที่มุ่งร้ายจ้องทำลายกัน ผมเองและพี่น้องมวลมิตรก็ได้ตอบโต้ท่านไปพอหอมปากหอมคอ เพียงแต่ไม่ได้มีโอกาสตอบโต้ท่านทางทีวีเหมือนตอนที่ท่านวิพากษ์พวกเรา

Advertisement

อยากเรียนท่านนายกฯว่าในปี2528สภาพัฒน์มีส่วนผลักดันให้พวกเราองค์กรพัฒนาเอกชนมารวมตัวกัน ก่อนหน้านั้นพวกเราก็ทำงานกันในแต่ละเนื้อหาที่ใครถนัดในแค่ละภาค จัดตั้งกันเป็นชมรมนักพัฒนาภาคเหนือ/อีสาน/กลาง/ใต้ สภาพัฒน์เสนอในทำนองว่าเพื่อความสะดวกในการทำงานประสานงานกันกับกระทรวงทบวงกรมต่างๆ เพราะในหลายๆพื้นที่เราก็ทำงานร่วมกัน คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน(NGOs)จึงก่อรูปองค์กรมีโครงสร้างร่วมกันในปี2528นั่นเอง

แน่นอนว่าองค์กรพัฒนาเอกชนก็พอจะมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถนะท่าน การลงไปทำงานในชุมชนหรือในเนื้อหาอื่นๆไม่ว่าสิทธิเสรีภาพของประชาชน ด้านความยากจนไร้ที่ทำกิน ถูกกดขี่เรื่องแรงงาน ด้านสิ่งแวดล้อมหรือการศึกษา สาธารณสุข เด็กเร่ร่อน สลัม ชนกลุ่มน้อย ปัญหาชาติพันธ์ ฯลฯ เราก็ลงมือปฏิบัติการแก้ปัญหานั้นๆในพื้นที่ๆสามารถลงมือได้เอง และก็มีข้อเสนอในส่วนของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการจะต้องปรับเปลี่ยนนโยบายโน่นนี่นั่นเพื่อให้การแก้ไขปัญหานั้นๆเป็นไปอย่างเป็นระบบ แน่นอนว่าในพื้นที่ๆพี่น้องได้รับความเดือดร้อนมากๆ การใช้รูปแบบของการชุมนุม เดินขบวนเพื่อกดดันหรือเรียกร้องก็มีอยู่ แต่ถ้าท่านมีใจเป็นกลางแล้วลงไปดูถึงสาเหตุของปัญหานั้นๆท่านจะเข้าใจ เพราะการชุมนุม การเดินขบวนมันไม่ใช่เรื่องสนุกสนานถ้าไม่เหลืออดจริงๆก็จะไม่ทำกัน ก็อยากให้ท่านนายกฯได้เข้าใจ

ในการทำงานของพวกเราNGOsที่มีโครงสร้างของคณะกรรมการจากองค์กรสมาชิกมาร่วมกันเป็นคณะกรรมการจากปั2528-2560พวกเรามีคณะกรรมการมาแล้ว11ชุด มีประธานมาถึงวันนี้คนที่11เผื่อท่านจะได้รู้ว่ามีท่านใดบ้างที่ทำหน้าที่มามีดังนี้ครับ

Advertisement

-ประธานคนแรกคือท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวนิช

-อาจารย์ศรีสว่าง พั่ววงศ์แพทย์

-ศ.เสน่ห์ จามริก(อดีตประธานกสม.)

-นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม(ดอีตรองนายกรัญมนตรี)

-นายเดช พุ่ทคชา(กก.ภาคประชาสังคมที่ท่านนายกฯตั้งไงครับ)

-นายเรือง สุขสวัสดิ์

-คุณเรวดี ประเสริฐเจริญสุข (ประธานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน)

-นายจอน อึ๋งภากรณ์(อดีตวุฒิสมาชิก)

-นายไพโรจน์ พลเพชร(นักกฎหมาย)

-นายศรีสุวรรณ ควรขจร

-และคนที่11คือผม(นายบรรจง นะแส)ซึ่งรับตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคม2559…

อ้ออยากเรียนว่าผมเข้ามาเป็นประธานกป.อพช.มาจากการเลือกตั้งจากสมาชิกในเวทีสมัชชาประจำปีนะครับ เลือกตั้งด้วยการหย่อนบัตรลงคะแนนลับ ไม่ได้มาจากการปฏิวัติยึดอำนาจนะครับท่าน555

เอาเป็นว่าถ้าท่านนายกฯมีเวลาพอที่จะพูดคุยกันในปัญหาที่ท่านสงสัยหรือค้างคาใจในเรื่องใด ทางผมยินดีที่จะพูดคุยด้วย เพราะน่าจะดีกว่าท่านไปฟังจากคนอื่นๆหรือที่ปรึกษาของท่าน การออกมาพูดเชิงตำหนิตัดพ้อNGOsเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าท่านมีข้อมูลไม่มากพอ ฟังข้อมูลเพียงบางด้าน เชื่อถือเรื่องเป้าหมายและวิธีการไปสู่คำว่า “พัฒนา”จากคนเพียงบางกลุ่ม ท่านก็รับคำพูดหรูๆมาใช้ไม่ว่า “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”(แต่คนส่วนใหญ่จะตกทะเลตายกันหมดแล้วเพราะปัจจัยการผลิตถูกรวบอยู่ในมือคนเพียงบางกลุ่ม) “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”บ้างละ แต่วิธีการใครมั่งคั่งท่านเคยตรวจสอบไหม??!ไปรับข้อตกลงเรื่องแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน(SDGs)ซึ่งประเด็นนี้พวกผมเห็นด้วยและสนับสนุนเต็มที่ครับ เพราะเราพูดเรื่องนี้กันมาก่อนที่ท่านจะไปเซ็นสัญญาปารีสกับทางUNเสียอีก

ก็เอาเป็นว่าวันนี้ขอทำหน้าที่อธิบายท่านเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ แต่ถ้าท่านคิดว่าท่านคิดถูกทำถูกอยู่คนเดียวในทุกๆเรื่อง ..เราก็คงต้อง “กอดคอตีเข่า”กับท่านต่อไป แม้รู้ดีว่ากระดูกเราคนละเบอร์แต่ขอเรียนว่าไม่กลัวท่านสักนิด อย่ามาเล่บบทข่มขู่กันเลยครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image