เตรียมเติมน้ำในสระให้ช้างป่าสลักพระพรุ่งนี้ หลังพบปลาตายยกบ่อคาดเกิดจากสารพิษ

ภายหลังจากกำลังพลกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พร้อมด้วยรถยนต์บรรทุกน้ำขนาด 6 พันลิตร เข้าร่วมกับชาวบ้าน ต.ช่องสะเดา ที่นำเครื่องสูบน้ำมาทำการสูบน้ำในสระกักเก็บน้ำบ้านแก่งปลากรด หมู่ 5 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ออกจากสระจนหมด และขัดลอกทำความสะอาด เนื่องจากมีบุคคลไม่ประสงค์ดีลักลอบเข้ามาทอดแหและวางยาที่สระดังกล่าว จนทำให้ปลาที่อยู่ในสระน้ำลอยตายเกลื่อน และช้างป่าที่อาศัยในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระไม่สามารถกินน้ำในสระได้ ส่งผลให้ช้างเกิดอาการหงุดหงิด


เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่สระกักเก็บน้ำบ้านแก่งปลากรด หมู่ 5 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายวสันต์ สุนจิรัตน์ กำนันตำบลช่องสะเดา ได้ลงพื้นที่ตรวจสระน้ำที่ตากไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารตกค้าง และในวันพรุ่งนี้ กองพลทหารราบที่ 9 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และ องค์การบริหารส่วนตำบลช่องสะเดา จะนำน้ำมาเติมในสระให้ช้างป่าไว้กินตามปกติต่อไป สำหรับสระน้ำดังกล่าวมีไว้ให้ช้างป่าที่อาศัยในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระกิน เพื่อป้องกันไม่ให้ช้างป่าออกมารบกวนชาวบ้าน โดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูแล้ง แหล่งน้ำในป่าจะแห้งขอด ทำให้ช้างป่าลงหามากินน้ำในหมู่บ้าน ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมกันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเติมน้ำในบ่อให้ช้างป่าอย่างต่อเนื่อง แต่หากน้ำในสระแห้งขอดหรือไม่มีน้ำ ช้างป่าก็จะเดินลงไปกินน้ำในแม่น้ำแควใหญ่ และเดินข้ามฝั่งไปรบกวนพื้นที่เกษตรของชาวบ้าน ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ดังนั้นชาวบ้านในพื้นที่จึงได้ให้ความสำคัญกับสระแห่งนี้ เพราะจะสามารถจำกัดพื้นที่ของช้างป่าให้อยู่ในพื้นที่ที่สามารถควบคุมได้และไม่สร้างความเสียหาย

นายวสันต์ เปิดเผยว่า สำหรับโขลงช้างป่าที่ลงมากินน้ำตลอดทั้งปี มีประมาณ 15 ตัว ส่วนช้างป่าที่เดินลงมาเป็นวงรอบจะมีประมาณ 100 ตัว โดยมักจะออกจากป่ามาหากินน้ำและอาหารในเขตชุมชนช่วงฤดูฝน ซึ่งเจ้าหน้าที่เขตฯ สลักพระ ชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าจะร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันลาดตระเวนผลักดันช้างกลับเข้าป่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง และพยายามจะทำให้คนกับช้างป่าอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติสุข

Advertisement

“ทั้งนี้ กรณีที่ปลาในสระลอยตายเกลื่อน โดยส่วนตัวเชื่อว่าไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เพราะปลาตายยกบ่อซึ่งถือว่าผิดปกติ จึงเชื่อว่าเป็นการวางยา โดยชายต้องสงสัยที่ปรากฏในภาพจากกล้องที่ติดตั้งไว้บริเวณบ่อน้ำ พบว่าไม่ใช่คนในพื้นที่ ตนจึงพยายามสืบหาและติดตามตัวมาสอบถาม โดยชายคนดังกล่าวปฏิเสธว่าไม่ได้ทำให้ปลาในบ่อตาย เพียงแค่มาทอดแหหาปลาเท่านั้น ประกอบกับกล้องที่ติดตั้งไว้บริเวณบ่อน้ำพังเสียหาย ทำให้ไม่มีหลักฐานเอาผิดได้ แต่ก็ได้ทำการตักเตือนและเน้นย้ำไม่ให้กระทำการในลักษณะดังกล่าวอีก อย่างไรก็ตาม อยากวิงวอนให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีหยุดกระทำการในลักษณะดังกล่าว เพราะจะสร้างความเสียหายและส่งผลให้ช้างป่าได้รับความเดือดร้อน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อชาวบ้านและชุมชนในที่สุด” นายวสันต์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image