เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำนักงานใหญ่ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี มีพิธีลงนามความร่วมมือสนับสนุนสมาคมกีฬา ระหว่าง กฟผ. กับสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย โดยมีนายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการ กฟผ. และนางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ร่วมในพิธีและลงนามร่วมกัน พร้อมด้วยผู้บริหารของทั้ง 2 หน่วยงาน และสื่อมวลชนจำนวนมาก
ตามที่ กฟผ.ให้การสนับสนุนสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ตามแนวนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬายกน้ำหนักไทยสู่สากล ตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 ถึงปัจจุบัน รวมเป็นระยะเวลา 14 ปี ซึ่งสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯสามารถพัฒนาศักยภาพและยกระดับนักกีฬายกน้ำหนักของไทยสู่สากลได้ตามเป้าหมาย ดังจะเห็นได้จากผลงานและเหรียญรางวัลที่ได้รับจากการเข้าร่วมการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก นับตั้งแต่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเอเธนส์เกมส์ในปี ค.ศ.2004 มาจนถึงปักกิ่งเกมส์ในปี ค.ศ.2008 ลอนดอนเกมส์ในปี ค.ศ.2012
และล่าสุดจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ริโอเกมส์ ที่ประเทศบราซิล เมื่อปี ค.ศ.2016 นักยกน้ำหนักทีมชาติไทยสามารถทำผลงานได้ถึง 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง และอันดับ 4 อีก 2 คน สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และสร้างความสุขและความภาคภูมิใจให้กับพี่น้องคนไทย รวมถึง กฟผ. ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เป็นอย่างมาก
จากผลงานที่โดดเด่นและมีพัฒนาการต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัดเจนของสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ คณะกรรมการ กฟผ. ในคราวประชุมครั้งล่าสุดเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา จึงได้มีมติอนุมัติงบประมาณสนับสนุนสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เพิ่มขึ้นจากเดิมปีละ 16,000,000 บาท เป็นจำนวนเงินปีละ 20,000,000 บาท ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560-2563 รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 80,000,000 บาท
สำหรับรายละเอียดงบประมาณที่สนับสนุนในวงรอบใหม่ มีดังนี้
1.งบประมาณฝึกซ้อมเก็บตัวนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย เพื่อเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 32 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ.2563 (ค.ศ.2020) เป็นจำนวนเงินปีละ 10,000,000 ล้านบาท
2.งบประมาณจัดการแข่งขันรายการ EGAT ยกน้ำหนักนานาชาติชิงถ้วยพระราชทาน ปีละ 3 รายการ จำนวนเงินปีละ 6,000,000 บาท
3.งบประมาณส่วนที่ กฟผ. สนับสนุนเพิ่มเติมจากเดิมปีละ 4,000,000 บาท เป็นงบประมาณสำหรับการเก็บตัวฝึกซ้อม รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านร่างกายของนักกีฬาด้วยการเสริมสร้างด้านโภชนาการที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการโดยผู้เชี่ยวชาญ การนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ในการเตรียมทักษะด้านกีฬาของนักกีฬา และการฝึกจิตใจ สร้างสมาธิจากนักจิตวิทยาและผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ
