ความคืบหน้ากรณีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2 คน สวมหมวกกันน็อกปิดบังอำพรางเข้ามาภายในสนามมวยลุมพินี แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน โดยคนซ้อนท้ายใช้ไม้ตีนายอุดม ดีกระจ่าง ประธานกรรมการฝ่ายเทคนิคของสนามมวย ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างนั้นนายอนุชา ประทุมมา รปภ.เข้ามาช่วยเหลือ จึงถูกคนขี่รถจักรยานยนต์ยิงใส่เสียชีวิต ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป ตำรวจตั้งประเด็นเรื่องปัญหากรรมการการตัดสินมวย เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 27 มีนาคม ที่ สน.บางเขน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. และ พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีร่วมกับ สน.บางเขนและชุดสืบสวนบก.น.2 และ บก.สส.บช.น.
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวก่อนประชุมว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลอาญาอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย ตามภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำพยานทั้งสิ้น 7 ปาก และจะเรียกพยานเข้ามาสอบเพิ่มเรื่อยๆ ส่วนเสี่ยแขก หรือนายสมชาย เทศรุ่งเรือง จะเดินทางมาให้ปากคำวันนี้ ในฐานะพยานแต่ยังไม่สามารถระบุเวลาได้ สำหรับในส่วนของการติดตามตัวคนร้ายนั้นอยู่ในสำนวนยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ข่าวแจ้งว่า ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ เลขที่ 767-768/2560 ลงวันที่ 27 มีนาคม ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
เวลา 18.30 น.พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมร่วมกับทีมสืบสวนกว่า 4 ชั่วโมง คณะทำงานและทีมสืบสวนสามารถหาข้อมูลเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องและขณะนี้การทำงานของชุดสืบสวนคืบหน้าไปมากจนถึงระดับสามารถระบุตัวผู้เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวได้แล้ว แต่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่าเป็นใคร เพราะเกรงว่าจะกระทบการทำงานตำรวจชุดปฏิบัติงานที่ลงพื้นที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐานและติดตามตัวผู้ต้องหารวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมด จากการสอบสวนพยานที่เดินทางมาให้ปากคำนั้นขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่เชื่อมโยงเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวพบเพียงข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องงานเท่านั้น ตำรวจได้ตั้ง2 ประเด็นคือ เรื่องงาน และส่วนตัว
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า ได้ตั้งบันไดไว้ 20 ขั้น หากถึงขั้นที่ 20 แสดงว่ารู้ตัวคนร้ายแล้วว่าเป็นใครและสามารถจับกุมตัวได้ โดยขณะนี้การลงพื้นที่การปฏิบัติงานรวมถึงผลการสอบปากคำพยานทั้งหมดมีความคืบหน้าแล้ว 15 ขั้น ค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นประเด็นการก่อเหตุทำร้ายนายอุดมนั้นเกี่ยวกับเรื่องงาน แต่ต้องมีหลักฐานในเชิงประจักษ์จึงสามารถระบุได้ถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุดังกล่าว
ต่อมาเวลา 19.00 น. นายสมชาย เทศรุ่งเรือง หรือเสี่ยแขก พร้อมทนายความ เดินทางเข้าให้ปากคำกับพ.ต.ต.สราวุธ บุตรดี สว.(สอบสวน) สน.บางเขน แล้ว ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
