คุยสบายๆสไตล์ “11สตรีท” กับ “ปาร์ค มินจอง”

ตอนที่ตกปากรับคำจะเจอหน้ากัน ผมไม่ได้คาดหวังว่าการสนทนากับ “เอลลี” ปาร์ค มินจอง รองประธานฝ่ายบริหารธุรกิจและการตลาด ของ “อีเลฟเว่นสตรีท” (11street) ประเทศไทย จะออกรสชาติขนาดนี้ เราคุยกันตั้งแต่ประวัติศาสตร์ หนังสือหนังหาไปจนถึงวัฒนธรรมประจำชาติ

แน่นอน มีเรื่องราวของ “อีเลฟเว่นสตรีท” แทรกอยู่เป็นยาดำ แต่ก็น่าทึ่งไม่แพ้เรื่องอื่นๆ ที่เราคุยกันในวันนั้น

เรื่องแรกที่ถามเกี่ยวกับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซแห่งนี้ก็คือ อยู่ดีๆ ทำไมยักษ์ใหญ่ในแวดวงธุรกิจโทรคมนาคมที่เกาหลีใต้อย่าง “เอสเค เทเลคอม” ถึงกระโดดเข้าหาวงการค้าขายออนไลน์ คำตอบอย่างง่ายของเอลลีก็คือ เป็นเหตุผลในทางธุรกิจที่บริษัทต้องการขยับขยายสร้างความหลากหลายให้กับธุรกิจของตัวเอง โดยอาศัยฐานเดิมจากผู้ใช้บริการประจำของเอสเค เทเลคอม ให้เป็นประโยชน์

ที่น่าสนใจอย่างมากก็คือ ย้อนหลังไปเมื่อราว 10 ปีก่อนนั้น คนที่ครองตลาดอีคอมเมิร์ซในเกาหลีใต้ คือยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง “อีเบย์” ส่วนแบ่งการตลาดในเวลานั้นเกินกว่า 90% แต่อีเลฟเว่นสตรีท

Advertisement

ใช้เวลาเพียง 10 ปีโค่นแชมป์เก่าลงได้ ชนิดที่ตอนนี้ต้องรวมเอายอดผู้ใช้บริการ 2 เว็บอีคอมเมิร์ซที่อีเบย์เป็นเจ้าของคือจีมาร์เก็ตที่เป็นช้อปปิ้งมอลล์กับจีมาร์เก็ตที่เป็นออคชั่นไซต์ถึงจะได้ปริมาณผู้ใช้บริการสูงกว่า

ความสำเร็จน่าทึ่งของ “อีเลฟเว่นสตรีท” ในเกาหลี ส่งผลให้ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซในหลายประเทศอยากร่วมทำธุรกิจด้วย ส่งผลให้ “อีเลฟเว่นสตรีท” ขยับขยายเข้าไปปรากฏตัวอยู่ในประเทศที่มีศักยภาพด้านการค้าออนไลน์สูงอย่างอินโดนีเซียและมาเลเซีย ด้วยการเข้าไปร่วมทุนกับหุ้นส่วนธุรกิจในท้องถิ่นของแต่ละประเทศ

Advertisement

แต่ในไทย “อีเลฟเว่นสตรีท” ไม่ยักมีพาร์ตเนอร์?

เอลลีให้เหตุผลว่า ในทรรศนะของอีเลฟเว่นสตรีท เมืองไทยเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่สำคัญที่สุดและมีศักยภาพสูงที่สุดในบรรดาประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกัน ทำให้ตัดสินใจที่จะเข้าสู่ตลาดเมืองไทยทั้งๆ ที่ไม่มีหุ้นส่วน เพราะเชื่อว่า ถ้ายังรีๆ รอๆ จนเนิ่นช้าไปกว่านี้ การแทรกตัวเข้ามาไม่เพียงลำบากมากขึ้นเท่านั้น ยังอาจต้องใช้เงินมากขึ้นอีกด้วย

เอลลีเปรียบเทียบศักยภาพพาณิชยกรรมออนไลน์ของเมืองไทยไว้เห็นภาพได้ชัดเจนว่า ในเกาหลีใต้ ยอดการค้าออนไลน์คิดเป็นสัดส่วนราว 15% ของยอดค้าปลีกทั้งหมด ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับสัดส่วน 10% ในยุโรป “แต่ในเมืองไทยที่ถือว่ายอดรวมการค้าออนไลน์ขยายตัวสูงและเร็วมากนั้น ยังคิดเป็นสัดส่วนได้เพียงแค่ 1%”

นั่นหมายถึงตลาดไทยยังคงมีช่องว่างให้โตอย่างรวดเร็วได้อีกมาก

เอลลีไขความลับที่นำมาซึ่งความสำเร็จของ “อีเลฟเว่นสตรีท” ในเกาหลีให้ฟังเป็นความรู้ไว้ว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากความทุ่มเทและจริงจังในการพัฒนาตลาดโดยภาพรวม เริ่มตั้งแต่การให้ความรู้ ทำความเข้าใจ สร้างความเชื่อถือต่อระบบการค้าขายออนไลน์กับทั้งผู้ค้าที่นำเสนอสินค้าผ่านเว็บไซต์และผู้ใช้บริการที่เป็นลูกค้า พัฒนาทั้งรูปร่างหน้าตา ความชัดเจนของภาพและข้อมูลสินค้า เรื่อยไปจนถึงการจัดส่งสินค้า

“เราให้ความสำคัญกับการให้ความรู้กับผู้ที่ต้องการขายสินค้าออนไลน์มาก จัดอบรม ให้ความรู้ ความเข้าใจในทุกๆ ด้านกับผู้ค้าอยู่บ่อยๆ เพื่อให้ผู้ค้ารู้และเข้าใจกระบวนการ รวมถึงกลยุทธ์ต่างๆ แม้กระทั่งการทำบรรจุภัณฑ์ให้ดึงดูดใจ เป็นต้น” ที่สำคัญก็คือ เอลลี ย้ำว่า ประสบการณ์ล้ำค่าเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในประเทศไทยโดยผู้ค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แม้ว่าจะต้องลงทุนเม็ดเงินเพิ่มเติมไม่น้อยก็ตาม เพราะนี่คือจุดแข็งซึ่งเป็นที่มาของความสำเร็จของอีเลฟเว่นสตรีท เช่นเดียวกับการให้ความสำคัญสูงสุดกับลูกค้าผู้เข้ามาใช้บริการซื้อสินค้าผ่านอีเลฟเว่นสตรีท ทั้งในแง่ของการคัดกรอง รับประกันคุณภาพและการจัดส่งสินค้า

รองประธานอีเลฟเว่นสตรีทยืนยันว่า รู้สึก “สบายๆ” ในการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยและเกาหลีใต้คล้ายคลึงกันมาก สร้างความมั่นใจในการนำเอาประสบการณ์ที่เคยสร้างความสำเร็จเข้ามาปรับใช้ แต่ก็ยอมรับเช่นกันว่า ตลาดการค้าออนไลน์ในไทยมีลักษณะเด่นที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลกอยู่เหมือนกัน

“ในเกาหลีใต้ ตลาดจะโตไปเป็นขั้นตอนตามลำดับ เริ่มจากอินเตอร์เน็ตแล้วค่อยต่อด้วยโมบาย (เอ็มคอมเมิร์ซ) แต่เมืองไทยไม่เป็นอย่างนั้น ที่นี่เริ่มจาก 1 แล้วกระโดดไป 5 เลย อินเตอร์เน็ตกับโมบายโตพรวดขึ้นมาพร้อมๆ กัน” ผลก็คือตลาดในไทยสนุกและท้าทายกว่า และต้องลงทุนมากกว่าในเวลาเดียวกัน

“อีเลฟเว่นสตรีท” เข้ามาในไทยในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับผู้ให้บริการในระดับภูมิภาคและระดับโลกหลายราย รวมทั้งยักษ์ใหญ่อย่างอเมซอนและอาลีบาบา แต่เอลลียืนยันว่า พร้อมสำหรับการทำธุรกิจที่นี่

“เราคิดว่าเราพร้อมสำหรับการทำธุรกิจและเติบโตที่นี่ เพราะสิ่งที่เราทำไม่ได้แข่งหรือแย่งกับใคร แนวทางของเราคือการพัฒนาตลาดให้ขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนโตพอสำหรับทุกคน”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image