วันที่ 29 มีนาคม ความคืบหน้ากรณีพบสารบีที ซึ่งใช้กำจัดแมลงดำหนามในสวนมะพร้าว ถูกเก็บไว้เป็นจำนวนมากในห้องประชุมอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นาน 5 ปี จนหมดอายุการใช้งาน โดยล่าสุด นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางไปตรวจสอบการเก็บสารบีที ตามที่มีการนำเสนอข่าว โดยหาหลักฐานข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าเหตุใดจึงมีการเก็บสารบีที ปลอมไว้เป็นจำนวนมากในสถานที่ราชการ หลังจากผู้จัดซื้อไม่มีการจ่ายเงิน 32.8 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2555 ให้บริษัทผู้จำหน่ายสินค้า และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังไม่มีการตรวจรับสินค้า และให้หน่วยงานในพื้นที่แจ้งรายงานการตรวจสอบให้ทราบ
“เร็วๆ นี้ ผมพร้อมด้วยทีมรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ร่วมไปเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงทั้งหมด เบื้องต้นทราบว่าสารดังกล่าวมีกลิ่นเหม็น เข้าข่ายวัตถุอันตรายตามกฎหมายที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนด หน่วยราชการควรจะต้องนำไปเก็บไว้ในสถานที่ที่กำหนดเพื่อป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมในบริเวณใกล้เคียง ส่วนการจัดซื้อสารบีทีด้วยวิธีพิเศษจากการประกาศเขตพิบัติฉุกเฉิน ตั้งแต่ปี 2553-2555 ได้สั่งการให้ตรวจสอบย้อนหลังทั้งหมดเนื่องจากคดียังไม่หมดอายุความ ที่น่าสนใจคือสารบีทีที่จัดซื้อใช้งบประมาณจำนวนมาก ซื้อติดต่อกันหลายครั้ง ดังนั้น ต้องตรวจสอบว่ามีหน่วยงานราชการใดรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ ก่อนพบว่าในปี 2555 จึงพบว่ามีการสารบีทีที่ไม่มีคุณภาพ และต้องตรวจสอบพื้นที่ที่เสียหายทางการเกษตรว่าได้รับการบรรเทาจาการใช้สารบีทีดังกล่าวหรือไม่อย่างไร” นายพิศิษฐ์กล่าว