เมื่อวันที่ 2 เมษายน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะตัวแทนครอบครัวสุริยสัตย์ และกลุ่มบริษัท โตชิบา ประเทศไทย เผยทั้งน้ำตาถึงความตื้นตันใจที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ว่า วันนี้ไม่ได้มาด้วยหน้าที่แต่มาด้วยใจ เพราะอยากจะอยู่กับพระองค์อย่างใกล้ชิดที่สุด คิดอยู่เสมอว่าการรักพระองค์ ไม่ใช่แค่มาอยู่ตรงนี้เท่านั้น แต่เรายังต้องสานงานของพระองค์อย่างที่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา พูดอยู่เสมอว่า งานยังไม่เสร็จ เราต้องทำเพื่อประเทศชาติ และประชาชน วันนี้ได้พาเด็กๆ รุ่นใหม่มาด้วย เพราะอยากให้เข้าใจว่า ทำไมคนรุ่นก่อนถึงผูกพันกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่ใช่เพียงแค่คำว่าพระมหากษัตริย์เท่านั้น เมื่อได้ซึมซับและได้เห็นจะทำให้เขายินดีที่จะสานต่องานเพื่อประเทศชาติ รวมทั้งงานธุรกิจต่อไป
“ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต โดยยืนอยู่ด้วยขาของตัวเอง เฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขให้สมดุล รวมถึงเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม ซึ่งภาคธุรกิจก็น้อมนำหลักนี้มาใช้เช่นเดียวกัน โดยรู้จักบริหารความเสี่ยง ทำอย่างไรที่จะทำให้ทุกๆ วันได้ทำเพื่อประเทศชาติเป็นอันดับหนึ่ง ถ้ามีกำไรก็คิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อตอบแทนคืนสู่สังคม” นางกอบกาญจน์กล่าวทั้งน้ำตา
นายยูโซะ ชิบะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด ชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก และถือเป็นโอกาสพิเศษครั้งสำคัญในชีวิตที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง แม้ว่าตนจะเป็นคนต่างชาติ แต่ตลอดระยะเวลาที่อยู่เมืองไทยมากว่า 3 ปี รับรู้ได้ถึงความรักที่ประชาชนคนไทยมีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงงานอย่างหนักเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยทั่วทุกหนแห่ง และการที่ประเทศไทยพัฒนามาถึงทุกวันนี้ได้เพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์
“ได้เคยเห็นรูปภาพและสารคดีต่างๆ ที่นำเสนอเรื่องราวพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เห็นพระองค์เสด็จฯไปในพื้นที่ทุรกันดาร ลงไปคลุกคลีใกล้ชิดกับประชาชนอย่างไม่ถือพระองค์ และทรงเข้าใจถึงความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง เป็นเรื่องที่ตนประทับใจต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 และเข้าใจว่าทำไมคนไทยถึงรักในหลวงมาก” นายชิบะ กล่าว
นายตรีภพ ภัทรคามินทร์ อายุ 58 ปี อาชีพที่ปรึกษากฎหมาย ในฐานะประธานศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2521 กล่าวว่า ได้มีโอกาสมากราบสักการะพระบรมศพและร่วมเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ถือเป็นบุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิต ซึ่งพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวไทยและประเทศไทยมากมายเหลือเกิน ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวไทยและชาวโลก พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างเหน็ดเหนื่อย เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้อยู่ดีกินดี ตนรู้สึกตื้นตันใจและเคารพศรัทธาพระองค์มาก นอกจากนี้พระองค์ยังพระราชทานคำสอนดีๆ มากมายให้เราปฏิบัติตาม โดยเฉพาะหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่สอนให้เรารู้จักประหยัด อดออม และมีความพอเพียงในการดำเนินชีวิต ซึ่งตนได้น้อมนำมาใช้ในการดำเนินชีวิต ส่วนในการทำงานก็ได้น้อมนำเรื่องความเพียรมาใช้
นางเอมอร อ่อนแก้ว อายุ 35 ปี พนักงานร้านถ่ายภาพ ชาวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า เดินทางพร้อมกลุ่มเพื่อนและหลานสาว รวม 9 คน จากจ.นครราชสีมา ตั้งใจที่จะมากราบสักการะพระบรมศพให้ได้สักครั้งในชีวิต วันนี้เป็นวันหยุดของทางร้านจึงชักชวนเพื่อน ๆ มาพร้อมกัน หลังจากที่ได้เข้ากราบสักการะบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท รู้สึกปลาบปลื้มใจมาก เพราะไม่เคยได้อยู่ใกล้ชิดมากเท่านี้มาก่อน ตนมีความประทับใจต่อในหลวงมากมายจนพูดไม่หมด อย่างโครงการพระราชดำริของพระองค์ ก็มีหลายพันโครงการซึ่งโครงการเหล่านี้ล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทย สามารถไปศึกษาดูงานและนำไปต่อยอดพัฒนาเป็นอาชีพได้ ตนได้ยึดแนวทางความพอเพียงใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้จ่ายพอตัว ไม่ฟุ้งเฟ้อ
ด.ญ.อภิชญาภา เนิดกระโทก อายุ 5 ขวบ โรงเรียนยมราชสามัคคี กล่าวว่า วันนี้มาหาในหลวง รักในหลวงเพราะในหลวงเป็นคนดี จะตั้งใจเรียนและเป็นเด็กดี
