วีระ หนุนเลิกเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ ชี้ โลกเปลี่ยนไปแล้ว

วันนี้ (4 เมษายน) นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) เปิดเผยกับ”มติชนออนไลน์” กรณีการเกณฑ์ทหาร และ การรณรงค์ต่อต้านการเกณฑ์ทหารในขณะนี้ โดยระบุว่า โดยส่วนตัวตอนนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว ในหลายประเทศที่เจริญแล้ว หรือ เผื่อสังคมจะยังไม่รู้ ประเทศเทศที่กำลังพัฒนาอย่างกัมพูชาที่ตนมีประสบการณ์ ก็ไม่มีการเกณฑ์ทหาร  โดยคนจะเป็นทหารต้องสมัคร มีการใช้เงิน แข่งขันแย่งกันสูงมาก ซึ่งเมื่อโลกเปลี่ยนมาถึงจุดนี้ ก็อยากให้การเกณฑ์ทหารใช้ระบบสมัครใจ เหมือนโลกตะวันตก หากจะต้องเป็นการเกณฑ์ ก็จะต้องอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม เช่นในภาวะสงคราม หรือความเสี่ยง ที่อาจต้องใช้กฎหมายเรียกเกณฑ์ แต่ไม่ใช่อย่างทุกวันนี้ เพราะทุกวันนี้ เราไม่มีภัยที่จะเสี่ยงต่อการทำสงคราม เพราะประเทศนี้ผู้นำทุกคนก็พูดเหมือนกันหมดว่าไม่อยากทำสงคราม ยกตัวอย่างเวลามีปัญหากับเพื่อนบ้านก็จะพูดเลี่ยงการปะทะเสมอ จนบางครั้งเหมือนตกเป็นเบี้ยล่างเพื่อนบ้านทุกอย่าง

นอกจากนี้ การเกณฑ์ทหารจำนวนมาก เต็ม 100% แบบทุกวันนี้ ยังมีปัญหาเรื่องงบประมาณ ที่จะใช้จ่ายในการฝึก เสียเงินเดือนจำนวนมากในแต่ละปี นอกจากนี้ยังมีปัญหา คนที่เกณฑ์ไปแล้ว ใช้เส้นสาย ไม่อยากถูกฝึก หรือฝึกไม่นาน ก็ไปรับใช้นายที่บ้านจนปลดระวาง กลายเป็นการเอาทหารเกณฑ์ไปเป็นทหารรับใช้ให้นายทหาร ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินไปดูแล ทหารรับใช้มีเยอะมาก โดยการเกณฑ์ทหารเยอะๆแต่ไม่นำมาใช้เป็นการสูญเสียทรัพยากร เพราะชายหนุ่มคนหนึ่ง ต้องมาเป็นทหาร 2 ปี  ซึ่ง เวลา2 ปี เขาสามารถเอาไปใช้ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว เป็นกำลังสำคัญของชาติ แต่ต้องเสียไปถึง2 ปี ประเทศจะได้ประโยชน์จากเขาแค่การฝึก นอกจากนี้ยังพบเรื่องปัญหาการคอร์รัปชั่น เช่นเงินการฝึก เบี้ยงเลี้ยง หรือสวัสดิการ ที่ปรากฎว่ามีปัญหาดังกล่าวจริงๆ เพราะมีข่าวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนกลายเป็นเหมือนธุรกิจ เป็นเรื่องผลประโยชน์มิชอบ เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตนไม่ได้กล่าวหา เพราะข่าวปรากฎเยอะ

นายวีระ ระบุอีกว่า “นอกจากนี้ยังมีข่าวพลทหารถูกซ้อมบ่อยครั้ง บางครั้งถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งเมื่อเกิดเหตุร้ายแรง นายทหารตำแหน่งใหญ่ก็มักจะบอกว่า ไม่สนับสนุนให้เกิดขึ้น จะทำให้เป็นผู้เสียชีวิตเป็นรายสุดท้ายทุกทีไป พูดง่ายๆว่าคุณก็ไม่มีมตราการที่จะเอาจริงเอาจัง มิฉะนั้นพวกนายสิบซึ่งเป็นครูฝึก คงไม่ได้ใจถึงขนาดนัั้น เพราะคนถ้ากลัวว่าจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง อย่างไม่ละเว้น ก็จะไม่มีใครไปซ้อม ผู้ต้องหาหรอก แต่ที่เกิดเพราะคิดว่าเขาก็พูดไปอย่างนั้น” นายวีระ ระบุ

เมื่อถามว่ากรณีมองอย่างไรกรณีมีการเปรียบเทียบว่าการเกณฑ์ทหาร ถือเป็นการรับใช้ชาติ ล่าสุดมีนักการเมืองวิจารณ์ว่าการคัดค้านเกณฑ์ทหาร เสมือนไม่รับใช้ชาติ

Advertisement

นายวีระ ระบุว่า “อย่างที่บอกว่าโลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ควรให้เป็นความสมัครใจได้แล้ว เหมือนอย่างนานาประเทศเขา ไม่ต้องห่วง เพราะจะมีชายไทยจำนวนหนึ่งที่เขาอยากเป็นทหารจริงๆ ที่มีความพร้อมและใฝ่ฝันจริงๆ และไม่จำเป็นต้องไปกำหนดจำนวนทหาร ผมคิดว่าปีหนึ่ง มีคนสมัคร 3-4 หมื่นคนก็เพียงพอแล้ว ทั้งนี้ เชื่อว่าหากเปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ ก็จะได้ทหารที่มีคุณภาพดีกว่า  จะมีความห้าวหาญอย่างเต็มที่ พร้อมที่จะรับใช้ชาติ และเข้ารับการฝึกอย่างสมภาคภูมิ ยอมรับระเบียบวินัย การไปกำหนดยอดทหาร และต้องเกณฑ์ให้ได้ตามจำนวน บางคนเขาไม่อยากเป็น ไม่มีความพร้อม จิตใจก็ไม่พร้อม เข้าไปก็หนีกลับบ้าน ได้ทหารที่ไม่มีคุณภาพ อย่าลืมว่าบางคนมีภาระ วัยรุ่นหนุ่มๆบางคนเพิ่งมีครอบครัว ลูกยังเล็ก แล้วคุณก็ไปพรากเขามา ลองคิดดูสิครอบครัวเขาจะอยู่ยังไง มันกลายเป็นปัญหาครอบครัวเขาเลย บางคนครอบครัวแตกเลยนะ” นายวีระ ระบุ

เมื่อถามว่า กรณีเริ่มมีการรณรงค์คัดค้านการเกณฑ์ทหาร เพราะยังมีวิธีการรับใช้ชาติที่มีประโยชน์ อย่างอื่นอีก เช่นกรณี นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล อายุ 21 ปี นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท นายวีระ ระบุว่า ถูกต้องเลย เขามีสิทธิ์เลย เพียงแค่ว่าคุณจะรับใช้ชาติ คุณไม่ทำผิดกฎหมาย ช่วยชาติเรื่องอื่นๆได้ มาดูแลเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นก็ถือเป็นการรับใช้ชาติ แล้วถามว่าถ้าเป็นทหารและทุจริตคอร์รัปชั่น ถามว่าแบบนี้ รับใช้ชาติหรือไม่ อาจจะแย่กว่าอีก เพราะอ้างเป็นนายพล อ้างว่ารับราชการมานาน และมีปัญหาทุจริต แบบนี้ถือว่ารับใช้ชาติหรือ เพราะทำชาติเสียหาย ทหารใหญ่ๆที่ทำแบบนี้มีเยอะแยะไป แล้วยอมรับได้หรอว่า เขารับใช้ชาติ ถามว่าเราเกณฑ์ทหารปีละเเสนคน เราพร้อมจะทำสงครามกับใครหรือ? เตรียมเข้าสงครามหรือ? คนที่ปลดประจำการ ถามว่ารบจริงกี่คน?…

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image