รวบสาวใหญ่ญี่ปุ่นโกงแชร์ลูกโซ่กว่า 200 ล้านหนีกบดานไทย เหยื่อกว่า 50 ถึงขนาดฆ่าตัวตาย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 เมษายน ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รอง ผบก.สส.สตม.พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รองผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงจับกุม นางเซทซึโกะ ยามาเบะ (Mrs.Setsuko Yamabe) อายุ 61 ปี ชาวญี่ปุ่น ผู้ต้องหาตามหมายจับสถานีตำรวจ คุมาโมโตะ – ฮิงาชิ ซึ่งออกโดยศาลเมือง คุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น ข้อหากระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายการรับฝากเงินลงทุน การรับฝากเงิน และ อัตราดอกเบี้ย อันเป็นเหตุให้เป็นบุคคลต้องห้าม หลังก่อเหตุฉ้อโกงประชาชนที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท จับกุมได้ที่ภายในสถานบริการน้ำมัน ปตท. ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวว่า ได้รับการประสานจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ให้ช่วยติดตามจับกุมตัวนาง เซทซึโกะ ยามาเบะ หลังกระทำความผิดและหลบหนีเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทั้งนี้นางเซทซึโกะมีพฤติการณ์ฉ้อโกงในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ด้วยการอ้างกับผู้เสียหายให้ระดมเงินทุนเพื่อลงทุนในบริษัทยักษ์ของญี่ปุ่นหลายบริษัท อาทิ โตชิบา ,ชาร์ป ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น และระบุว่าจะได้เงินปันผลในอัตราที่สูงมาก แต่เมื่อถึงกำหนดกลับเชิดเงินแล้วหายไป สร้างความเสียหายให้กับประชากรชาวญี่ปุ่น มูลค่าความเสียหาย 700 ล้านเยน หรือประมาณกว่า 200 ล้านบาท มีผู้เสียหายกว่า 50-60 ราย บางรายถึงขั้นฆ่าตัวตาย โดยทำมาแล้วกว่า 3 ปี และทางการญี่ปุ่นได้ยกเลิกหนังสือเดินทางของนางเซทซึโกะแล้ว ต่อมาชุดสืบสวนจึงออกติดตามตัวนางเซทซึโกะและทราบว่าเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 มกราคม ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว 60 วัน แล้วยื่นขอต่อวีซ่าอีก 30 วัน โดยจะครบกำหนดวันที่ 19 เมษายน 2560 นี้ โดยนางเซทซึโกะได้คบหากับชายไทย ซึ่งทำงานอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี ก่อนจะพากันมาอาศัยอยู่ที่บ้านพักของชายหนุ่มที่อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี สืบสวนทราบว่านางเซทซึโกะเตรียมจะเดินทางต่อไปยังประเทศลาว จึงนำกำลังไปจับกุมได้บริเวณภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ก่อนควบคุมตัวนางเซทซึโกะและเพื่อนชายคนดังกล่าวมาสอบสวนยังสตม.

พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวต่อว่า จากการสอบถามเบื้องต้นเชื่อได้ว่าเพื่อนชายคนดังกล่าวไม่น่าจะรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเพิ่งจะมารู้จักกับนางเซทซึโกะหลังหลบหนีเข้ามาในไทยแล้ว อย่างไรก็ตามตำรวจไทยจะส่งตัวนางเซทซึโกะให้ทางการญี่ปุ่นวันที่ 18 เมษายน เนื่องจากอยู่ระหว่างขยายผลว่ามีบุคคลใดในประเทศเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบว่าเคยก่อเหตุใดในประเทศไทยบ้างหรือไม่


พล.ต.ท.ณัฐธร กล่าวเพิ่มว่า นอกจากนี้ในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ สตม. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ระดมกวาดล้างอาชญากรข้ามชาติ คนต่างชาติผิดกฎหมาย พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยสามารถจับกุมอาชญากรข้ามชาติที่หนีคดีมาหลบซ่อนตัวในประเทศไทยรายสำคัญ จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย 1.เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมาร่วมกันจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวัน จำนวน 3 ราย ได้แก่นายจาง จวินเหว่ย นายหลิน ชิน ฮุง และนายอู๋ เจิ้ง เฉียง ชาวไต้หวัน แกนนำแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ ในประเทศอินโดนีเซีย ที่หนีเข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทยและใช้ไทยเป็นฐานในการก่อเหตุ 2. เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา ชุดสืบสวน ตม.จว.ภูเก็ต ร่วมกันควบคุมตัว นายแมทเวย์ ชูวาโลว์ (Mr.Matvey Shuvalov ) อายุ 45 ปี ชาวรัสเซีย บุคคลตามหมายจับตำรวจสากล ข้อหา ฉ้อโกง และถูกทางการรัสเซียเพิกถอนหนังสือเดินทาง ซึ่งเข้ามาหลบอยู่ในประเทศไทยกว่า 20 ปี มีลูกกับภรรยาชาวไทย จำนวน 4 คน พูดภาษาไทยได้ชัดเจน และรู้จักกับเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จ.ภูเก็ตอีกด้วย 3. เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา กก.1 บก.สส.สตม. ร่วมกันควบคุมตัว นายสติก แอ็บจอร์น (Mr.Stig-asbjoern Indal ) ชาวนอร์เวย์ บุคคลตามหมายจับตำรวจสากลและหมายจับศาลแขวงฟูลลู ประเทศนอร์เวย์ ในข้อหาก่อเหตุความรุนแรงทางเพศ ทั้งนี้ยังมีภรรยาชาวไทยมักมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกายคนในครอบครัวที่ประเทศไทยด้วย 4. เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมตัว นายแอเรียล แบกเลย์ (Mr.Aarl Bagley ) ชาวสหรัฐอเมริกา บุคคลตามหมายจับคดีทางเพศในประเทศสหรัฐอเมริกา น่าเชื่อว่าอาจเข้ามาก่อเหตุลักษณะเดียวกันในประเทศไทย และ5. เมื่อ 1 เมษายน ที่ผ่านมา กก.1 บก.สส.สตม. จับกุมตัว นายยาคอฟ เอลฟาซี(Mr.Yakov Elfasi ) ชาวอิสราเอล บุคคลตามหมายจับของทางการอิราเอล ในข้อหากระทำผิดทางเพศและปลอมแปลงเอกสาร โดยผู้ต้องหาทั้งหมดถูก ตม. เพิกถอนใบอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image