สพต.จัดประชุมใหญ่”เลือก”สรอรรถ กลิ่นประทุม”นั่งเก้าอี้นายกฯต่ออีกสมัย
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 7 เมษายน ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมแห่งสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง (สพต.) มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2559 เพื่อเลือกนายกสมาคมสพต.และคณะกรรมการชุดใหม่ เนื่องจากชุดเก่าจะหมดวาระลงในวันที่ 10 พฤษภาคม 2560 ซึ่งผลการคัดเลือกปรากฎว่านายสรอรรถ กลิ่นประทุม ได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมสพต. ต่ออีกหนึ่งสมัย นอกจากนี้ยังมีพิธีมอบรางวัลเอกสารวิชาการดีเด่น นักศึกษาหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง ระดับสูง (พตส.) รุ่นที่ 1-6 โดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. เป็นผู้มอบ
ปริญญา ชี้ ยกเคส 4 รูปแบบรัฐบาล แนะคสช.อย่าเป็นผู้เล่นเอง เชื่อช่วยสร้างปรองดองได้
จากนั้น เวลา 11.00 น. มีการเสวนาวิชาการ เรื่อง “การบังคับใช้กฎหมายกับการสร้างความปรองดองในสังคมไทย” นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี ฝ่ายบริหารและความยั่งยืน กล่าวถึงโรดแมปการเลือกตั้ง ว่า หากคำนวณตามโรดแมปและกรอบระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด โดยใช้เวลาเต็มเพดาน การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน 2561 แต่หากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้งบางฉบับไม่ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ( สนช. ) จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งอาจทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป แต่ในส่วนนี้ยังไม่มีการระบุทางแก้ไขเอาไว้ ทั้งนี้หลังจากการเลือกตั้งแล้ว กกต.จะประกาศผลภายใน 60 วัน นับจากวันเลือกตั้ง จากเดิมที่กำหนดไว้ 30 วัน ดังนั้นหากตั้งสมมุติฐานว่าการเลือกตั้งเกิดในเดือนกันยายน 2561 ประกาศผลเลือกตั้งในเดือน พฤศจิกายน 2561 และจะสามารถตั้งรัฐบาลได้ประมาณเดือนมกราคม 2562 และหากคสช.ต้องการมาเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ก็จะต้องโหวตนายกรัฐมนตรีคนนอกต่อ ด้วยเสียง 2ใน3 ของจำนวนส.ส.และส.ว.ทั้งหมด ซึ่งในขณะนี้คสช.มีเสียงในมือแล้ว 250 เสียงจากส.ว. จึงขอเรียกการเมืองหลังจากนี้ว่า ระบอบไฮบริด คือ มีส่วนที่เป็นประชาธิปไตย คือ เลือกตั้ง ส.ส. และ ส่วนที่ไม่เป็นประชาธิปไตย คือ การได้มาซึ่งส.ว. และส.ว.สามารถร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีได้ด้วย
นายปริญญา กล่าวว่า รัฐบาลใหม่สามารถมีได้ 4 รูปแบบ คือ 1. พรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค คือ พรรคเพื่อไทย หรือ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีพรรคการเมืองใดตั้งรัฐบาลเองได้ เพราะไม่สามารถรวมเสียงให้เกิน 376 เสียงได้ ดังนั้น คสช. จะเป็นผู้กำหนดว่าพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคๆใดจะเป็นรัฐบาล 2. คสช.จะเป็นนายกรัฐมนตรีเอง โดยมีพรรคขนาดใหญ่พรรคหนึ่งมาร่วมรัฐบาล 3. พรรคเพื่อไทย กับ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ยอมและจับมือกันเป็นรัฐบาล ซึ่งถือเป็นเรื่องยาก และ 4. ปล่อยฟรีโหวตกับส.ว. ให้การตั้งรัฐบาลเป็นธรรมชาติ โดยคสช.ถอยออกไปยืนดู 5 ปี ไม่เป็นผู้เล่นเอง ซึ่งแนวทางนี้มองว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และจะสามารถสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองได้ ทั้งนี้หากคสช.ไปตั้งพรรคการเมืองเอง เป็นผู้เล่นเหมือนพรรคสามัคคีธรรมในปี 2534 ก็จะทำให้เสื่อมทันที