รวบแก๊งปลอมเอกสารบัตรเครดิตซื้อโรงแรมกระบี่ 700 ล้าน แบงก์เจอพิรุธแจ้งจับทันควัน

วันที่ 14 เมษายน 2560 พ.ต.อ.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา รักษาราชการแทนผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกระบี่ ได้ร่วมกันควบคุมตัวผู้ต้องหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอมในการหลอกซื้อโรงแรมในย่านหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ตามหมายจับของศาลจังหวัดกระบี่ ลงวันที่ 13 เมษายน 2560 นำส่งเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวนาง เพื่อดำเนินคดี โดยมีผู้ต้องหา 5 คน ประกอบด้วย นางธนกร ชีวิตรุ่งเรือง อายุ 44 ปี สัญชาติไทย นายจอห์น อิน ลี อายุ 46 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ นายเคียว ซัก โซ อายุ 49 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ นายฮังสกัน อมามไต อายุ 36 ปี สัญชาติมองโกเลีย และนางจากาล นิมิช อายุ 35 ปี สัญชาติมองโกเลีย

พ.ต.อ.เชิดพงษ์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากธนาคารกรุงเทพสาขากระบี่ว่า มีกลุ่มผู้ต้องสงสัยชาย-หญิงเป็นคนไทยและต่างชาติได้ทำการติดต่อขอซื้อโรงแรมกระบี่เฮอริเทจ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เป็นจำนวนเงิน 700 ล้านบาท แต่ได้มีการทำสัญญาจะซื้อจะขายกันที่ 300 ล้านบาท ซึ่งนัดทำรายการกันที่ธนาคารกรุงเทพสาขากระบี่ โดยมีการใช้เครื่องรูดบัตรเครดิตในลักษณะการใช้ระบบออฟไลน์ ซึ่งในตอนแรกนั้นรูดแล้วไม่ผ่าน จึงขอให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ พบว่าเมื่อช่วงระหว่างวันที่ 10-11 เมษายน เวลาประมาณ 22.00-01.00 น. กลุ่มผู้ต้องหาได้ทำการรูดบัตรเครดิตด้วยตนเองจำนวน 65 ครั้ง เป็นเงินจำนวนประมาณ 60 ล้านบาท แล้วนำสลิปดังกล่าวมาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่จะซื้อดู เพื่อยืนยันว่าจะทำการซื้อจริง แต่เมื่อทางธนาคารกรุงเทพสาขากระบี่ได้ทำการตรวจสอบ กลับพบว่าสลิปแต่ละใบที่ทำการรูดไปนั้นมีรหัส (App Code) ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเมื่อตรวจสอบสลิป พบว่าเป็นรหัสเดียวกันทั้งหมด โดยข้อเท็จจริงการทำรายการแต่ละครั้งจะมีรหัส (App Code) ที่ไม่เหมือนกัน และในการรูดจะเป็นเจ้าหน้าที่ของสถานที่ติดตั้งเครื่องรูดบัตรเท่านั้น ทางธนาคารเจ้าของบัตรจึงได้ปฏิเสธในการทำรายการเนื่องจากเงินในบัญชีไม่เพียงพอ

นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ต้องหารายนี้ยังได้ติดต่อขอซื้อโรงแรมพาวิลเลี่ยนควีนส์เบย์ อ่าวนาง อีกจำนวน 550 ล้านบาท และได้มีการรูดด้วยบัตรเดียวกันนี้อีกจำนวน 118 ล้านบาทเพื่อชำระค่ามัดจำ แต่ยังไม่มีการทำสัญญาจะซื้อจะขายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนและตรวจสอบข้อมูลต่างๆ พบว่ากลุ่มคนร้ายไม่มีความสามารถที่จะซื้อโรงแรมดังกล่าวได้จริง แต่มีการวางแผนหลอกลวงเป็นขั้นตอน จนกระทั่งตกลงจะซื้อในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งมีวันหยุดยาว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบและติดต่อประสานงานกันได้ทัน และจะรูดบัตรในเวลา 22.00 น.เป็นต้นไป เนื่องจากในเวลาดังกล่าวทางระบบของธนาคารจะปิดทำการ ไม่สามารถตรวจสอบได้ เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับกุมในที่สุด เบื้องต้นนางธนกรและนางจากาลให้การปฏิเสธ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวนาง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติของนางธนกร ซึ่งเดิมเป็นชาวจังหวัดเชียงใหม่ พบว่ามีประวัติคดีฉ้อโกงและคดีในลักษณะดังกล่าวมาแล้วจำนวน 9 คดี ขณะที่ประวัติกลุ่มผู้ต้องหารายนี้ เคยมีการติดต่อขอซื้อโรงแรมในจังหวัดกระบี่และจังหวัดอื่นๆ อีกหลายแห่ง รวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนขยายผลต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image