สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า โรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่จะคร่าชีวิตผู้คน 200 ล้านคนในจีนในศตวรรษนี้และทำให้ผู้คนอีกหลายสิบล้านตกอยู่ในความยากจน โดยจีนถือเป็นประเทศผู้บริโภคและผู้ผลิตยาสูบรายใหญ่ของโลก ซึ่งอุตสาหกรรมดังกล่าวสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลเป็นมูลค่ามหาศาล โดยกำไรในปี 2558 อยู่ที่ 1.1 ล้านล้านหยวน (ราว 5.4 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากเมื่อปีก่อนหน้าถึง 20 เปอร์เซ็นต์
แต่รายงานขององค์การอนามัยโลก (ฮู) ร่วมกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดีพี) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 เมษายนระบุว่า จีนจะได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจหากไม่เร่งรีบลดจำนวนประชากรที่สูบบุหรี่
รายงานฉบับดังกล่าวที่ชื่อว่า “ใบแจ้งหนี้ที่จีนไม่สามารถจ่ายได้” ประเมินว่า รายจ่ายทางเศรษฐกิจประจำปีที่เกิดจากการสูบบุหรี่ในประเทศในปี 2558 อยู่ที่ 350,000 ล้านหยวน (ราว 1.7 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 10 เท่าจากเมื่อปี 2543
นายแบร์นฮาร์ด ชวาร์ตลันเดอร์ ผู้แทนฮูประจำประเทศจีนระบุในแถลงการณ์ว่า “หากไม่มีมาตรการในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่และบังคับใช้นโยบายที่แข็งกร้าวมากขึ้น ผลกระทบที่ตามมาอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ไม่เพียงต่อสุขภาพของผู้คนในประเทศ แต่ยังรวมถึงต่อเศรษฐกิจจีนในภาพรวมด้วย”
การประเมินความเสียหายรวมเอาค่าใช้จ่ายทางตรงในการรับมือกับอาการป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ และค่าใช้จ่ายทางอ้อม เช่น การสูญเสียผลิตภาพในการทำงาน โดยชวาร์ตลันเดอร์ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ในจีนเป็นเรื่องที่ไม่ยั่งยืน
ทั้งนี้ รายงานประเมินว่า ผู้ใหญ่ 38 เปอร์เซ็นต์และผู้ชาย 50 เปอร์เซ็นต์ในจีน สูบบุหรี่เป็นประจำ