(คลิป) พยานยันเหตุรุมตื้บหลังตลาดกันทรลักษ์ หนุ่มขับเก๋งด่า ‘มึงเก๋าเหรอ’ ชักปืนตบหน้า ก่อนโดนยำเละ

ศรีสะเกษ คืบหน้าวัยรุ่นรุมกระทืบ 2 หนุ่มสาวจับยกแก๊งแล้ว พยานปากเอกยันคนถูกรุมกระทืบใช้ปืนยิงก่อน ขณะที่อาการของคนเจ็บยังอาการสาหัสไม่ได้สติให้ปากคำตำรวจไม่ได้ ด้านผู้ว่าการตำรวจเผยหนุ่มที่โดนรุมทำร้ายมีประวัติค้ายาบ้าถูกจับมาแล้ว 2 ครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการกรณีที่มีชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งจำนวนประมาณ 7 คน พากันรุมทำร้ายชกเตะต่อยชายหญิง 2 คนที่ขับขี่รถเก๋งยี่ฮ้อมิตซูบิชิ สีขาว โดยเหตุเกิดที่บริเวณด้านหลังตลาดเม่งอุย ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งในภาพมีกลุ่มวัยรุ่นได้พากันรุมชกทำร้ายร่างกายผู้ชายคนหนึ่งผมสีทอง ส่วนผู้หญิงอีกคนหนึ่งสวมเสื้อสีแดงพยายามที่จะเข้าไปช่วยเหลือชายที่มาด้วยกันไม่ให้ถูกทำร้าย โดยขณะที่ผู้หญิงเสื้อแดงกำลังนุ่งคุกเข่าดูอาการของเพื่อนชายที่มาด้วยกันอยู่นั้น ได้โดนชายคนหนึ่งไม่สวมเสื้อใช้เท้าเตะเข้าไปที่ใบหน้าอย่างแรงจนทำให้ฟุบลงไปกองกับพื้น ล่าสุดตำรวจชุดสืบสวน สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จับกุมคนร้ายได้แล้ว 4 คน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.ชยากร เทศะบำรุง ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน นำตัว นายรณชัย หรือ บิ๊ก ชาติสมานนท์ อายุ 29 ปี ชาวบ้านโนนเปือย ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพยานปากเอกที่อยู่ในเหตุการณ์รุมกระทืบ 2 หนุ่มสาว มาทำการสอบปากคำ โดยให้นายรณชัย ได้ดูภาพคลิปวีดีโอที่มีการเผยแพร่ทางโซเชียล ซึ่งนายรณชัย ได้ให้การว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 เม.ย.60 เวลาประมาณ 17.00 น.ได้มีรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ แอททราจ สีขาว ที่มี 2 หนุ่มสาว ทราบชื่อภายหลังว่า คือ นายคมกริช แสงกอง เป็นคนขับ โดยมีนางสาวปิยวรรณ สามสี ซึ่งเป็นแฟนสาว นั่งมาด้านหน้าคู่คนขับ เมื่อมาถึงสี่แยกหลังตลาดเม่งอุย บริเวณหน้าร้านแม็กกี้ ซุปเปอร์ หมู่ 8 ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จะขับตรงไปแต่ถนนดังกล่าวเป็นทางเดินวันเวย์ ได้มีนายสันติ แจ่มแจ้ง อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นชาวลาว มาประกอบอาชีพขายปลาสด อยู่ในตลาดเม่งอุย และกำลังเล่นน้ำอยู่ในกลุ่มวัยรุ่น ได้เข้ามายกมือไหว้ขอให้นายคมกริซขับรถเลี้ยวซ้ายและใช้มือจับรถยนต์ด้วย ทำให้นายคมกริชไม่พอใจจึงได้เปิดกระจกหน้าต่างรถ แล้วพูดกับนายสันติว่า จับรถกูทำไม มึงเก๋าเหรอ จากนั้นนายคมกริซ ได้ใช้อาวุธปืนตบที่หน้าของนายสันติ 2 – 3 ครั้ง

Advertisement

นายรณชัย ให้การต่อไปว่า นายสันติจึงเปิดประตูดึงตัวนายคมกริช แต่ว่า นายคมกริชได้ลงจากรถแล้วสะบัดปืนเพื่อให้ซองปืนตกออกแล้วเล็งไปที่นายสันติ แต่ว่า ตนได้เข้าไปดันปืนที่อยู่ในมือของนายคมกริซ ทำให้ปืนลั่นขึ้นฟ้า 1 นัด จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่บริเวณดังกล่าวประมาณ 5 – 6 คน พากันเข้าไปกระชากประตูเปิดออก ทำให้นายคมกริชล้มลงที่เบาะหน้ารถด้านคนขับ ซึ่งตนได้เข้าไปแย่งปืนจากมือของนายคมกริชไปเก็บเอาไว้ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นจึงพากันเข้าทำร้ายร่างกายนายคมกริซ และนางสาวปิยวรรณ ซึ่งตนได้พยายามเข้าไปห้ามปรามแล้ว แต่ว่า กลุ่มวัยรุ่นไม่ยอมฟังเนื่องจากโกรธแค้นที่โดนนายคมกริซเอาปืนมายิงใส่ก่อน ตนขอยืนยันว่า ฝ่ายนายคมกริช เป็นผู้ที่ก่อเหตุจะใช้ปืนยิงกลุ่มวัยรุ่นก่อน จึงทำให้เกิดเหตุรุมทำร้ายร่างกายกันขึ้นในครั้งนี้

ทางด้าน นายสันติ แจ่มแจ้ง อายุ 50 ปี ที่อยู่ บ้านโพนโฮง แขวงโพนโฮง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกนายคมกริชเล็งปืนใส่เพื่อจะยิง ได้เปิดเผยผ่านลูกกรงห้องควบคุม สภ.กันทรลักษ์ว่า วันเกิดเหตุตนเห็นรถของนายคมกริช เข้ามาในถนนที่มีการเล่นน้ำกันอยู่ จึงได้เข้าไปยกมือไหว้ขอให้เลี้ยวซ้ายไปยังถนนอีกด้านหนึ่ง เพราะว่า เป็นการขับรถสวนเลน ซึ่งจะทำให้รถติดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ว่า นายคมกริช ไม่พอใจหาว่า ตนจับรถของนายคมกริซ และได้เปิดกระจกหน้าต่างรถ นำเอาปืนมาตบหน้าของตน 2 – 3 ครั้ง ตนเจ็บปวดมาก จากนั้น นายคมกริชเปิดประตูรถออกมาและเล็งปืนใส่ตนและปรากฏว่าได้มีคนดันประตูรถปิดเข้าไปจากนั้น ได้มีคนเข้าไปแย่งปืนจากมือของนายคมกริช และได้มีกลุ่มวัยรุ่นที่เล่นน้ำกับตนเห็นเหตุการณ์ว่าตนจะโดนยิง จึงเกิดความโกรธแค้นและเข้ามารุมทำร้ายร่างกายนายคมกริชดังกล่าว โดยที่พวกตนไม่ได้ใช้อาวุธใดๆ ทั้งสิ้น มีเพียงมือเปล่าเท่านั้น และเป็นการป้องกันตนเองจากการที่นายคมกริช จะใช้ปืนยิงตนเท่านั้น

Advertisement

ทางด้าน พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ ตร. สภ.กันทรลักษ์ นำโดย พ.ต.อ.ชยากร เทศะบำรุง ผกก.สภ.กันทรลักษ์ พ.ต.ท.นรินทร์ บุพตา รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ชนัสพงศ์ อึ้งตระกูล สว.สส. ร.ต.อ.เสกสิทธิ์ สาระวรรณ รอง สว.สส. และเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.กันทรลักษ์ ได้ทำการจับกุมตัวแก๊งวัยรุ่นที่รุมทำร้ายร่างกาย 2 หนุ่มสาว ได้ครบทั้ง 5 คนแล้ว ส่วนอีก 2 คนในภาพคลิปวีดีโอ เป็นกลุ่มเข้าไปห้ามปรามไม่ให้รุมทำร้าย 2 หนุ่มสาว ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 5 คนประกอบด้วย 1.นายสันติ แจ่มแจ้ง อายุ 50 ปี ที่อยู่ บ้านโพนโฮง แขวงโพนโฮง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 2. นายอนันทชัย หรือพงษ์พัฒน์ จันทร์อิน อายุ 18 ปี 3.นายสุวิทย์ หรือแป้ง พลสิทธิ์ อายุ 19 ปี 4.นายเจษฎา หรือบาส จินาวัลย์ อายุ 18 ปีเศษ และ 5.นายอนุสรณ์ พรหมกุล อายุ 20 ปี ทั้งหมดเป็นชาวกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยได้กล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายสาหัส

พล.ต.ต.สุรเดช กล่าวต่อไปว่า ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ นายสันติ ว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีและเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และนายอนุสรณ์ ว่าเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต และจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรลักษ์ ได้ตรวจสถานที่เกิดเหตุตรวจค้นพบของกลางจึงได้ตรวจยึดไว้ ดังนี้ 1.อาวุธปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ ขนาด .38 สแตนเลส ลำกล้องยาว ๔ นิ้ว ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก พบตกอยู่บริเวณขอบถนนใกล้ที่เกิดเหตุ 2.ปลอกกระสุนปืนขนาด .๓๘ จำนวน ๑ ปลอก พบอยู่ในรังเพลิงของปืนดังกล่าว และกระสุนปืน จำนวน 18 นัด ยาบ้า จำนวน 28 เม็ด อยู่ในกระเป๋าผ้ายีนส์แบบสะพายวางไว้ในเบาะข้างคนขับ

พล.ต.ต.สุรเดช ยังกล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัติต้องหาคดีของนายคมกริซ พบว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีอาวุธปืน และทำร้ายร่างกาย โดยถูกจับกุมในคดียาเสพติด และอาวุธปืน ในวันที่ 14 ก.ย.2559 และจับกุมตามหมายจับคดีจำหน่ายยาเสพติด ของ สภ.กันทรลักษ์ เมื่อ 15 ก.ย.2559 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี และได้ประกันตัวออกมาต่อสู้คดี

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ส่วนอาการบาดเจ็บของนายคมกริชนั้น อาการยังสาหัส ไม่สามารถที่จะให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนได้ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศรีสะเกษ แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วน น.ส.ปิยวรรณ แฟนสาว บาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์ รพ.กันทรลักษ์ ได้อนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 60 ที่ผ่านมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image