เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำชาวกะเหรี่ยงบางกลอย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2557 ว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอสอบปากคำแม่ของนายบิลลี่แล้ว เป็นเรื่องข้อสงสัยเกี่ยวกับการหายตัวไปของนายบิลลี่ รวมถึงมีพฤติการณ์อย่างไรจึงหายตัวไป เราเรียกว่าเป็นประเด็นแวดล้อม เช่น นายบิลลี่เคยเล่าให้ฟังหรือไม่ว่าเคยถูกขู่ทำร้าย ทั้งหมดเป็นประเด็นที่เราจะต้องนำประกอบรวมกันทั้งหมด ส่วนกรณีที่ว่าทำไมเราเพิ่งจะสอบปากคำแม่ของนายบิลลี่นั้น ขอเรียนว่าเนื่องจากที่ผ่านมาเราพยายามติดต่อหลายอย่าง รวมถึงการเดินทางของแม่ค่อนข้างลำบาก อาศัยอยู่บนเขา และมีอายุค่อนข้างมากแล้ว จึงเป็นเรื่องที่ลำบากมาก
พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวต่อว่า แต่เมื่อดูแล้วพบว่ายังมีบางประเด็นยังไม่ครบ จึงต้องให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการสอบปากคำแม่ของนายบิลลี่ เพื่อทำให้ครบประเด็นตามที่น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมุนอ ภรรยาของนายบิลลี่ ที่เคยมาร้องเรียน ขณะนี้พนักงานสอบสวนสอบปากคำครบแล้ว หลังจากนี้จะต้องส่งเรื่องมายังตน เพื่อตรวจดูรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง ก่อนเสนออธิบดีดีเอสไอดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ที่ผ่านมาเราได้สืบสวนสอบสวน โดยเน้นไปที่การค้นหาศพแต่ยังไม่พบ อีกทั้งการให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำเพิ่มเติมนั้น เพื่อจะดูว่าลักษณะคดีจะสามารถรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ปัญหาคือเรายังไม่พบศพของนายบิลลี่ หรือพิสูจน์ทราบได้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ จึงยังทำให้มีข้อติดขัดในเรื่องนี้
รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า หากถามว่าได้อะไรมากกว่าที่ผ่านมาหรือไม่ ตนกำลังให้พนักงานสอบสวนทำเพิ่มเติมอยู่ว่ามีประเด็นอะไรที่พอจะเพิ่มเติมส่วนที่ยังขาดอยู่ อย่างไรก็ตามเราพยายามทำเรื่องดังกล่าวให้ครบถ้วนทั้งหมด
