เมื่อวันที่ 18 เมษายน ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐจะทำการซ้อมระบบป้องกันขีปนาวุธครั้งใหญ่ถึง 2 ครั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อทดสอบความสามารถในการยิงสกัดขีปนาวุธที่ถูกยิงขึ้นจากเกาหลีเหนือ โดยการทดสอบดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐต่อภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือและอิหร่าน
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐระบุว่า การทดสอบที่กำหนดจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นใจว่าสหรัฐจะสามารถปกป้องภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจากเกาหลีเหนือได้ โดยการทดสอบครั้งหนึ่งจะเป็นการทดสอบการยิงจรวดที่ได้รับการพัฒนาขึ้นแล้วจากเรือของกองทัพเรือสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางพอที่จะทำการทดสอบระยะการยิงได้
ก่อนหน้านี้สหรัฐเคยทดสอบขีปนาวุธที่ได้รับการอัพเกรดใหม่มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยมีการปรับปรุงระบบสนับสนุนรวมถึงหัวรบซึ่งจะช่วยให้ขีปนาวุธมีพิสัยการยิงที่ไกลขึ้น คาดว่าจะสามารถยิงได้ถึงชายฝั่งเกาหลีเหนือและมีโอกาสสูงขึ้นที่จะทำลายจรวดที่ถูกยิงออกมา การพัฒนาจรวดดังกล่าวเป็นโครงการที่ทำร่วมกับญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อยิงสกัดขีปนาวุธพิสัยกลางของเกาหลีเหนือที่จะเป็นภัยคุกคามต่อชาติพันธมิตรของสหรัฐในภูมิภาค
ขณะที่การทดสอบอีกครั้งหนึ่งจะทำในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เพื่อทดสอบความสามารถของสหรัฐในการยิงสกัดขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือในอนาคต โดยการทดสอบดังกล่าวจะเกี่ยวเนื่องกับระบบป้องกันขีปนาวุธภาคพื้นดินของสหรัฐในรัฐอะแลสกาและแคลิฟอร์เนีย
การทดสอบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนทางเลือกต่างๆ ของสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ในการจัดการกับวิกฤตการณ์ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐได้พิจารณาการใช้ทางเลือกทางทหารต่อเกาหลีเหนือมามากกว่าหนึ่งเดือน เพื่อเตรียมพร้อมหากทำเนียบขาวตัดสินใจที่จะให้มีการใช้ปฏิบัติการทางทหารขึ้น ทั้งนี้ สหรัฐยังคงความพยายามที่จะหาทางเลือกอื่นๆ อาทิ การดำเนินมาตรการทางการทูตและทางเศรษฐกิจควบคู่กันด้วย
