“บางประทุน” สองฝั่งฝัน ในวันที่เงินทองไม่มีความหมาย

“บางประทุน” คลองสายเล็กๆในย่านบางขุนเทียน เป็นที่ตั้งของชุมชนแสนอบอุ่น ทั้งยังมีจิตสำนึกในด้านการอนุรักษและพัฒนา จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งกลุ่ม “รักษ์บางประทุน” โดยมีหัวเรื่อใหญ่คือ นาวิน มีบรรจง ชาวบางประทุนแท้ๆ ที่ไม่ใช่แค่สร้างครอบครัวอยู่ที่นี่ หากแต่มีบรรพบุรุษตั้งรกรากทำมาหากินบนผืนแผ่นดินอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้มานานหลายชั่วอายุคน

ปัจจจุบันคอนโดมีเนียม บ้านจัดสรร และห้งสรรพสินค้ารุกคืบเข้ามาอย่างมิอาจหยุดยั้ง
วิถีชีวิตของผู้คนเริ่มได้รับผลกระทบ และเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ทว่า ชาวบางประทุน ยังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายในบ้านริมคลองที่อิงอาศัยอยู่กับสายน้ำและธรรมชาติประสาชาวสวนเก่าที่แม้คนรุ่นใหม่จะเข้าไปทำงานในเมือง ทว่า ไม่ลืมซึ่งรากเหง้าของตนว่าเป็นคนริมคลองบางประทุน

ด้วยความห่วงใย และหวงแหนในมรดกภูมิปัญญาของปู่ย่าตายาย โครงการสร้าง “ศูนย์เรียนรู้ชุมชน” จึงเกิดขึ้น เพื่อรักษาความทรงจำ เรียนรู้ที่มาที่ไป ส่งเสริมความภาคภูมิในใจในท้องถิ่น

Advertisement

ก่อนอื่น นาวินเล่าว่า นี่คือศูนย์ที่เกิดจากผู้คนซึ่งไม่รู้อะไรเลยเรื่องงานก่อสร้าง แต่มีใจที่จะร่วมแรงแข็งขัน ก่อร่างสร้างฝันศูนย์แห่งนี้ให้เกิดขึ้นจริง
วัฒนธรรมการ “ลงแขก” แบบดั้งเดิม จึงถูกปัดฝุ่นออกมาใช้

ชาวบ้านที่ทำงานประจำในวันธรรมดา พากันแปลงกายเป็นนักสร้างบ้าน ทั้งการตัดไม้ไผ่ ทำหลังคา เตรียมพื้น และอื่นๆอีกสารพัด
คนเฒ่าคนแก่ออกมาช่วยงานเบาๆแต่ใช้ความประณีตอย่างการมุงจาก
ส่วนเด็กๆ ก็ทุ่มเทสุดกำลังกับการลอกเลนที่ผสมผสานระหว่างการ ‘เล่น’ และ การทำงานไว้อย่างลงตัว

ไม่เพียงวัฒนธรรมการเกื้อกูลแบบพื้นบ้านเท่านั้น ที่ถูกงัดออกมาใช้ให้งานลุล่วง
แต่ยังรวมถึงเทคนิคก่อสร้างอย่างการ “ลอกเลน” แล้วนำดินอัดพื้น

“ผู้ใหญ่ว่าเมื่อแห้งหมาดๆแล้วเอาเกลือโรย จากนั้นก็ทุบ และอัดดินเพิ่มอีกหน พื้นมันจะสวย นั่นคือวิธีแบบบ้านชาวสวนโบราณ” นาวินเล่า

เมื่อโครงสร้างทุกอย่างแล้วแล้วเสร็จ ก็ถึงขั้นตอนเก็บรายละเอียด อย่างทางน้ำยาเคลือบไม้ให้เวางับ และรักษาเนื้อไม้ รวมถึงตกแต่งภูมิทัศน์โดยรอบด้วยการลูกไม้พื้นถิ่นอย่างพลับพลึง เตย มะกอกน้ำ บัวบก บัวสาย อีกทั้งสมุนไพรอย่างตระไคร้ เป็นต้น

ตอนนี้ ศูนย์การเรียนรู้เปิดใช้งานเป็นที่เรียบร้อย ประเดิมด้วยการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดย “ครูเปิ้ล” ใจดี หลังจากทุ่มเทวางแผนและเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ช่วงก่อนปีใหม่
จากนี้เป็นต้นไปจะมีกิจกรรมต่างๆตามมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ ซึ่งจริงๆก็ทำกันมาก่อนหน้านี้แล้ว

ถามว่าเงินทุน นำมาจากไหน ?

นาวินกล่าวถึงการร่วมมือกับเครือข่ายที่รักสายน้ำเหมือนๆกัน อย่างศิลปินดัง เป๊ก บลูสกาย ที่มีซิงเกิ้ล “สองฝั่งฝัน” โดยนาวินถ่ายภาพปกอัลบั้มด้วยตนเอง รายได้ส่วนหนึ่งกลับมาชวยเหลือกิจกรรมถ่ายทอดภูมิปัญญาบรรพชนและดูแลลำคลองอันเป็นที่รัก

นอกจากนี้ ยังเตรียมเดินหน้าโครงการ “ร้านค้าชุมชน” เพิ่มอีกอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

“สิ่งเหล่านี้เกิดจากความรักในพื้นที่ ที่ไม่มีข้อแม้ใดๆในการทำงาน ไม่มีนักการเมือง ไม่มีหน่วยงานราชการ ไม่มีฝั่งมีฝ่าย ไม่มีเรื่องใดๆเกี่ยวข้อง นอกจากการทำงานของกลุ่มคนที่เห็นตรงกันในความรักสายน้ำ” นาวินกล่าวอย่างภาคภูมิใจพร้อมตบท้ายว่า ความรู้จะทำให้เรามีชีวิต ความสุข ความอบอุ่น
รากฐานของชุมชนจะหล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คน ในวันที่เงินทองไม่มีความหมาย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image