สบส. เตรียมส่งทีมไปหนองคาย แจ้งความเอาผิดผู้ขนอสุจิข้ามปท. ด้านคลินิกเจตนิน ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 เมษายน นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.)กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นำทีมกฎหมาย สบส. เข้าตรวจสอบคลินิก 2 แห่ง จาก 4 แห่งที่ถูกอ้างชื่อกรณีการจับกุมขนถังไนโตรเจนบรรจุหลอดอสุจิข้ามประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ โดยก่อนหน้านี้ได้ตรวจไปแล้ว 2 แห่งนั้น

โดย นพ.ธงชัย กล่าวว่า สบส.เข้าตรวจสอบคลินิก 2 แห่ง โดยแห่งแรก คือ คลินิกเจตนิน ได้มาตรวจเนื่องจากหลักฐานจากหนองคายพบว่า มีชื่อของคลินิกร่วมด้วย จึงต้องมาตรวจสอบเอกสารทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร ซึ่งคลินิกให้ความร่วมมืออย่างดี และให้ข้อมูลว่า คลินิกไม่ได้มีส่วนในการแช่แข็งอสุจิ แต่รับหน้าที่เพียงตรวจผลทางห้องปฏิบัติการของเลือดและอสุจิเท่านั้น ซึ่งอสุจิทั้ง 6 หลอดเป็นของคน 2 คน ซึ่งเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด

นพ.ธงชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับคดีที่หนองคายหรือไม่ต้องตรวจสอบต่อ โดยจากนี้ 1-2 วัน ได้มอบให้กองกฎหมายไปแจ้งความที่หนองคายพร้อมเอกสารทั้งหมด เพื่อเอาผิดกรณีที่มีผู้นำอสุจิออกนอกประเทศ ส่วนการขยายผลคดีว่ามีนายหน้าหรือเอเจนซี่เกี่ยวข้องหรือไม่ หรือการนำอสุจิไปทำอะไรจะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนต่อไป

นพ.ภิญโญ หรรษาจารุพันธ์ ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลโรงพยาบาลเจตนิน กล่าวว่า กรณี จ.หนองคายมีการเชื่อมโยงมาถึงเจตนินนั้น ยืนยันว่าทั้ง 2 กรณีไม่ใช่คนไข้ของเจตนิน โดยไม่เคยมาเก็บอสุจิและแช่แข็งอสุจิที่เจตนินแต่อย่างใด และยืนยันว่าเจตนินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการว่าจ้างการขนส่งอสุจิออกนอกประเทศแต่อย่างใด

Advertisement

พญ.ปิยพันธ์ ปุญญธนะศักดิ์ชัย ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลคลินิกเจตนิน กล่าวว่า คลินิกทำหน้าที่ในการตรวจเลือดและสเปิร์มของคนไข้เท่านั้น ไม่ได้มีการแช่แข็งอสุจิแต่อย่างใด โดยทั้งหมดมี 2 คน เป็นชาวเวียดนามมาปรึกษาภาวะการมีบุตรยาก แต่ไม่ได้รักษา จึงทำเพียงแต่ตรวจคุณภาพสเปิร์มในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ซึ่งเมื่อตรวจเสร็จแล้วก็ทิ้งอสุจิเลย ไม่ได้มีการแช่แข็งไว้ แต่ขอผลกลับไป และรายที่สอง เป็นชาวจีน ซึ่งไม่เคยมาปรึกษา เพียงแต่ไปทำการปรึกษาที่คลินิกแห่งอื่น โดยคลินิกแห่งนั้นส่งตัวอย่างเลือดมาให้ตรวจที่เจตนิน ซึ่งทั้งสองเคส คนไข้สามารถมีสิทธิที่จะขอผลตรวจกลับไปได้ โดยคนไข้จะต้องมาปรากฏตัวและขอผลกลับไปทางเจตนินจึงอนุมัติ โดยไม่ทราบว่ามีการเอาไปดำเนินการใดๆ ต่อ

เมื่อถามว่ามีคนมาขอนำอสุจิออกไปโดยไม่มีการรักษาต่อมากน้อยเพียงใด พญ.ปิยพันธ์ กล่าวว่า ปกติก็มีบ้าง แต่ไม่เคยเก็บเป็นเปอร์เซ็นต์ว่ามากน้อยเท่าไร เพราะบางรายก็มาตรวจครั้งแรกแต่ไม่ได้เป็นช่วงที่จะกระตุ้นไข่ได้ ก็จะเป็นการตรวจร่างกายทั่วไป บางส่วนก็ไม่ได้กลับมารักษาต่อ ส่วนการเบิกสเปิร์มออกไปเป็นเรื่องปกติที่ทำได้ แต่ต้องเป็นเจ้าของเท่านั้น โดยในส่วนของเจตนินยืนยันว่า ไม่ให้มีตัวแทนหรือผู้รับมอบอำนาจมารับสเปิร์มออกไป โดยจะต้องเป็นเจ้าตัวเท่านั้น เพราะต้องมีการตรวจสอบ ถ่ายรูปเก็บไว้ และเซ็นเอกสารรับทราบว่าห้ามนำอสุจิออกนอกประเทศ

พญ.ปิยพันธ์ กล่าวว่า คลินิกได้มีการแจ้งความผู้ที่กล่าวหาคลินิกแล้ว แต่จากการตรวจสอบเอกสารร่วมกับ สบส.อาจจะมีการแจ้งความเพิ่มเติม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image