เมื่อวันที่ 24 เมษายน พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงภายหลังประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า เรื่อง การพิจารณาหลักเกณฑ์และข้อกฎหมาย กรณีการจ่ายเงินนำจับผู้จอดหรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ขณะนี้ กทม.ได้เพิ่มแรงจูงให้ประชาชนโดยอำนาจตามมาตรา 48 วรรคสาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ที่ระบุว่า ภายหลังที่ประชาชนส่งหลักฐานให้เจ้าหน้าที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิด ประชาชนที่แจ้งข้อมูลดังกล่าวจะได้รับค่านำจับจำนวนครึ่งหนึ่งของค่าปรับ โดยปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท
“ในเบื้องต้น กทม.ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อร่างระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการปรับ เตรียมประกาศใช้ภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ผมเชื่อว่าประชาชนจะเป็นหูเป็นตาให้กับ กทม.มากยิ่งขึ้น” พล.ต.ท.อำนวย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กทม.ต้องประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อติดตามผู้กระทำความผิดตามหลักฐานที่ได้จากการแจ้งเบาะแสหรือไม่ พล.ต.ท.อำนวย กล่าวว่า เมื่อมีข้อมูลปรากฏชัดเจน เช่น ป้ายทะเบียนรถ ฯลฯ สำนักเขตจะประสานกรมการขนส่งทางบกขอข้อมูลผู้ครอบครองรถที่อยู่ในหลักฐานการกระทำความผิด เพื่อส่งหนังสือติดตามเจ้าของรถไปชำระค่าปรับที่สำนักงานเขต หากไม่ชำระค่าปรับตามเวลาที่กำหนด กทม.จะดำเนินคดีเพื่อฟ้องร้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความผิด พ.ร.บ.รักความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ที่ผู้แจ้งเบาะแสจะได้รับเงินรางวัลนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ เช่น ปล่อยสัตว์อุจระหน้าบ้านแล้วไม่เก็บ ปรับ 500 บาท พ่นสี เขียนกำแพง ปรับ 5,000 บาท รถบรรทุกหิน ทราย ดินร่วงบนถนน ปรับ 3,000 บาท ทิ้งซากรถบนถนนหรือที่สาธารณะปรับ 5,000 บาท ล้างรถ ล้อเลื่อนบนนถนนหรือที่สาธารณะ ปรับ 2,000 บาท ทาให้ถนนหรือสถานที่สาธารณะสกปรก เลอะเทอะ ปรับ 2,000 บาท