เพื่อไทย-นปช.เชียงใหม่ เห็นแย้งเก็บค่าสมาชิกพรรค ปชป.หนุน เชื่อปชช.จ่ายได้ ไม่เดือดร้อน

เมื่อวันที่ 24 เมษายน นายวิทยา ทรงคำ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เขต 4 พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ เผยกรณีคณะกรรมการศึกษาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้พรรคการเมืองเก็บค่าสมาชิก ปีละ 100 บาท ว่า ไม่เห็นด้วย เพราะประชาชนส่วนใหญ่เป็นรากหญ้า หรือคนจน ไม่ใช่ผู้มีฐานะร่ำรวย ถ้าเก็บค่าสมาชิก ไม่มีผู้อยากสมัครเป็นสมาชิกพรรค ทำให้ตัดโอกาส การมีส่วนร่วมอุดมการณ์ทางการเมือง กฏหมายดังกล่าวทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ เป็นการทำลายพรรคการเมืองทางอ้อม ซึ่งกฏหมายดังกล่าวผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ สนช. วาระแรก แล้ว แต่สามารถแก้ไข หรือเพิ่มเติมได้ในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ก่อนประกาศใช้อย่างเป็นทางการ

ด้าน ด.ต.พิชิต ตามูล แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงเชียงใหม่ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เป็นการสร้างกลไกกีดกันคนจนมีส่วนร่วมทางการเมือง ตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งสมาชิกพรรคเพื่อไทย เกิน 50 % เป็นรากหญ้า หรือคนจน มองว่าเงินสมาชิก 100 บาท มีค่าต่อการเลี้ยงชีพ ของคนหาเช้ากินค่ำถ้าพรรคการเมืองเก็บค่าสมาชิก ทำให้มีสมาชิกน้อยลง พรรคไม่เข้มแข็ง ไม่มีส่วนร่วมการเมือง เป็นข้ออ้างการยึดอำนาจและทำรัฐประหารในอนาคตอีก โดยอ้างว่าประชาชนไม่สนใจการเมือง ซึ่งการเก็บค่าสมาชิก ไม่ได้ทำให้ประชาชนเป็นเจ้าของแท้จริง เพราะมีโครงสร้างการบริหารและระเบียบพรรคอยู่ มองว่าเป็นการสร้างวาทกรรม หรือโวหารใหม่เท่านั้น

“กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน เพื่อการปฏิรูปประเทศไทย เสนอให้มีการบริจาคพรรคการเมืองไม่เกิน 1 ล้านบาทนั้น มองว่าเป็นการสร้างภาพเพราะผู้บริจาคเงินรายใหญ่ ส่วนมากไม่แสดงตน แต่อยู่เบื้องหลังและสนับสนุนพรรคการเมือง ไม่ใช่แค่บริจาค 1 ล้านบาท บางรายสนับสนุน 20-100 ล้านบาท จุึงไม่เห็นว่าการเก็บค่าสมาชิกพรรค 100 บาท/ปี เกิดประโยชน์ตรงไหน เชื่อว่าพรรคการเมือง มีนายทุนหรือลงขันสนับสนุนอยู่แล้ว เพียงเอาประชาชนหรือสมาชิก เป็นฉากบังหน้าเท่านั้น หากให้เก็บค่าสมาชิก ปีละ 100 บาท เชื่อว่าพรรคการเมืองอยู่ไม่ได้” ด.ต.พิชิต กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายบวร ศรีเปารยะ ประธานสาขาพรรคประชาธิปัตย์ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า เห็นด้วย อยากเห็นประชาชน เปลี่ยนวัฒนธรรมการเมือง ไม่ใช่เอาเงินเป็นตัวตั้ง หรือแบมือขอเงินอย่างเดียว ต้องสร้างวัฒนธรรมการเมืองใหม่ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างแท้จริง ซึ่งเงินค่าสมาชิก ปีละ 100 บาท เชือว่าประชาชนส่วนใหญ่จ่ายได้ เป็นค่าสมาชิกที่ไม่มากนัก ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ตนเอง และครอบครัว ในอนาคตเชื่อว่า พรรคการเมืองเข้มแข็ง เพราะสมาชิกสามารถพึ่งพาตนเองได้ ตามแบบวิถีการใหม่เมือง หรือการปฏิรูปการเมือง

Advertisement

เช่นเดียวกับ นายวิริยะ ช่วยบำรุง อดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ จ.เชียงใหม่ ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิและข้าราชการบำนาญ กล่าวว่า เห็นด้วยเก็บค่าสมาชิกปีละ 100 บาท เพื่อยืนยันและแสดงฐานะสมาชิกพรรค เป็นแฟนพันธุ์แท้ สามารถตรวจสอบได้ ไม่ใช่ใกล้เลือกตั้งต้องมาทำฐานสมาชิกใหม่ทุกครั้ง ทำให้เสียเวลา การบริหารจัดการพรรคไม่ต่อเนื่องแต่ต้องบอกว่าเงินที่เก็บ 100 บาท เอาไปไหน และทำอะไร ให้เกิดประโยชน์ต่อพรรคและสมาชิกอย่างสูงสุด เชื่อว่าพรรคการเมือง สามารถขยายฐานสมาชิกได้มากขึ้น

“การเก็บค่าสมาชิก เชื่อว่าประชาชนไม่เดือดร้อน มีสิทธิเป็นเจ้าของและมีส่วนร่วมบริหารจัดการพรรคได้ เปรียบเสมือนพรรคการเมืองเป็นบ้าน มีทะเบียน มีสมาชิก ดังนั้นลูกบ้านต้องมีหน้าทีบำรุงรักษาบ้านตนเอง ให้มั่นคง แข็งแรง ไม่ปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรม ที่สำคัญยืนยันตัวตนแท้จริง ไม่ใช่คนเร่ร่อนพเนจร ย้ายบ้านหลายหลังในเวลาเดียวกัน แต่เพื่อเป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว และให้พรรคการเมืองมีสมาชิกถาวร ไม่ใช่ทะเบียนเถื่อน หรือทะเบียนผี เช่นในอดีต” นายวิริยะ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image