สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเปียงยาง (พียูเอสที) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับเงินสนับสนุนจากต่างชาติ ในกรุงเปียงยาง เกาหลีเหนือ ออกมายืนยันว่า ชาวอเมริกันที่ถูกจับเมื่อวันที่ 22 เมษายน เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่พียูเอสที นับเป็นชาวอเมริกันคนที่ 3 ที่ถูกเกาหลีเหนือจับกุมตัวไว้ ท่ามกลางสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างรัฐบาลเปียงยางกับวอชิงตัน
พียูเอสที แจ้งว่า ชาวอเมริกันที่ถูกจับชื่อนายคิม ซัง ดุก หรือ โทนี คิม ซึ่งได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยไปก่อนหน้านี้หลายสัปดาห์ กระทั่งถูกจับที่สนามบินในกรุงเปียงยางเมื่อวันที่ 22 เมษายน และว่า ในส่วนของสาเหตุที่นายคิมถูกจับนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานที่พียูเอสทีแต่อย่างใด พร้อมระบุว่า ทางมหาวิทยาลัยไม่สามารถแสดงความเห็นใดๆเกี่ยวกับเรื่องที่นายคิมถูกกล่าวหาได้ เนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการสอน
ทั้งนี้ พียูเอสพี ก่อตั้งโดยกลุ่มชาวคริสต์ในต่างแดน และเริ่มเปิดการสอนเมื่อปี พ.ศ.2553 และเป็นที่รู้กันว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีอาจารย์ชาวอเมริกันอยู่จำนวนมาก ส่วนนักศึกษาที่เรียนก็จะเป็นบรรดาลูกๆของกลุ่มชนชั้นสูงในเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ นายคิมเคยเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหยานเปียน ในประเทศจีน ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนที่ติดกับเกาหลีเหนือ
ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้ รายงานว่า นายคิม ในวัย 55 ปี มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมบรรเทาทุกข์ของเด็กๆในชนบทของเกาหลีเหนือ จนได้ชื่อว่าเป็น “ชายผู้เคร่งศาสนา” โดยแหล่งข่าวเปิดเผยว่า นายคิมเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในเกาหลีเหนือเป็นเวลายาวนาน ซึ่งแหล่งข่าวรายนี้บอกว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆนายคิมถึงถูกจับกุมตัว
โดยนายคิมถือเป็นชาวอเมริกันคนที่ 3 ที่ถูกเกาหลีเหนือจับกุมตัว สองคนก่อนหน้านี้ ได้แก่นายออตโต วอร์มเบียร์ นักศึกษา และอีกคนคือนายคิม ดง ชุล บาทหลวงชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี ที่ปัจจุบันยังคงถูกเกาหลีเหนือควบคุมตัวเอาไว้ โดยนายคิม ดง ชุล ถูกตัดสินให้ใช้แรงงานหนักเป็นเวลา 10 ปี ข้อหาเป็นสายลับ ส่วนนายวอร์มเบียร์ ถูกตัดสินให้ใช้แรงงานหนัก 15 ปี เมื่อปี 2559 ข้อหาขโมยข้อมูลประชาสัมพันธ์ และก่ออาชญากรรมต่อรัฐ
