อารมณ์เปลี่ยน โดย นฤตย์ เสกธีระ

แฟ้มภาพ

สวนดุสิตโพลสัปดาห์ก่อนหน้านี้ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนกลุ่มตัวอย่าง

สรุปว่ารัฐบาลน่าเป็นห่วง

ท่าทีของรัฐบาลต่อผลโพลยังนิ่งเฉย ฝ่ายต้านรัฐบาลออกมาโจมตี ฝ่ายหนุนรัฐบาลออกมาปกป้อง

เป็นปกติ

Advertisement

สัปดาห์ต่อมาสวนดุสิตโพลเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนกลุ่มตัวอย่างอีก

ถามเรื่องความหนักใจของประชาชน

สรุปว่า ประชาชนร้อยละ 87.92 หนักใจปัญหาเศรษฐกิจ เพราะเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลยังแก้ไม่ตก ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งเรื่องของกินของใช้แพง ฯลฯ

Advertisement

เสนอวิธีแก้ไขโดยใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ผล สรรหาผู้ที่มีความเก่งเรื่องเศรษฐกิจมาช่วย เปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน ฯลฯ

ความหนักใจ รองลงมาคือ ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ร้อยละ 76.61% เพราะยังพบการทุจริตอยู่มากโดยเฉพาะโครงการต่างๆ ของภาครัฐ

เสนอวิธีแก้ไข โดยให้ภาครัฐชี้แจงให้ประชาชนรับรู้ เร่งปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ฯลฯ

หนักใจอันดับสาม คือ การเมืองขัดแย้ง ร้อยละ 70.45% เพราะเป็นเรื่องที่จัดการได้ยาก มีเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวข้อง รัฐบาลยังไม่สามารถสร้างความปรองดองทางการเมืองได้อย่างแท้จริง ฯลฯ

เสนอหนทางแก้ โดยให้รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการแก้ปัญหา ขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย รับฟังความเห็นรอบด้าน ไม่อคติ ฯลฯ

อันดับต่อมา คือ หนักใจเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย การใช้มาตรา 44 ร้อยละ 64.78% เพราะมีกระแสต่อต้าน มองว่าถูกรัฐบาลปิดกั้น จำกัดสิทธิเสรีภาพ สองมาตรฐาน ฯลฯ

วิธีแก้ไข คือ ใช้ด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงผลดี-ผลเสียที่ตามมา สามารถชี้แจงประชาชนได้ ฯลฯ

และสุดท้าย อันดับห้า คือ หนักใจเรื่องการเลือกตั้ง ร้อยละ 61.18% เพราะเป็นเรื่องสำคัญ มีผลต่ออนาคตประเทศ กระบวนการยังไม่ชัดเจน มีนักการเมืองเคลื่อนไหวมากขึ้น ฯลฯ

พร้อมทั้งเสนอวิธีแก้ไข คือ รับฟังความคิดเห็นทุกฝ่าย เชิญนักการเมืองพูดคุย กำหนดวันเวลาเลือกตั้งที่ชัดเจน ฯลฯ

ฟังเรื่องหนักใจประชาชนแล้ว พอคุ้นๆ ไหมว่า..เป็นเรื่องเดิมที่เคยหนักใจ

ทั้งเศรษฐกิจ ทั้งการโกง ทั้งเสรีภาพ และความวุ่นวาย

วันต่อมา สวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนอีก

คราวนี้ถามถึงความนิยมรัฐบาล

ระบุว่า ประชาชนนิยมรัฐบาลมากขึ้น เพราะปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ร้อยละ 70.51

นิยมมากขึ้น เพราะทำให้บ้านเมืองเป็นระเบียบ สงบสุข ไม่มีประท้วง ร้อยละ 65.33

นิยมมากขึ้น เพราะบริหารบ้านเมืองเจริญก้าวหน้า มั่นคงมากขึ้น ร้อยละ 62.56

ขณะเดียวกัน ประชาชนก็ระบุถึงความนิยมรัฐบาลลดลง

นิยมลดลง เพราะเศรษฐกิจย่ำแย่ ประชาชนลำบาก การบังคับใช้กฎหมาย เช่น

เก็บภาษี กฎหมายจราจร เผด็จการ ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น

ส่วนภาพรวมความนิยมรัฐบาลปัจจุบัน

ประชาชนนิยมในระดับเดิม ร้อยละ 44.77 นิยมลดลง ร้อยละ 29.40

และนิยมมากขึ้น ร้อยละ 25.83

สุดท้ายประชาชนฝากให้รัฐบาลช่วยดำเนินการ 3 เรื่องหลัก

อันดับแรก เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง คุณภาพชีวิต ร้อยละ 80.70

อันดับสอง ช่วยดำเนินงานตามโรดแมป จัดการเลือกตั้ง เป็นไปตามประชาธิปไตย ร้อยละ 71.58

และอันดับสาม ให้ใช้งบประมาณคุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ ร้อยละ 69.97

อ่านภาพรวมจากโพลสวนดุสิต จากสัปดาห์ก่อนถึงสัปดาห์นี้

ตอกย้ำให้เห็นอารมณ์ของสังคมที่กำลังเปลี่ยน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image