เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในโลกสังคมออนไลน์มีการแชร์ข้อความในเฟซบุ๊กของ “Hattori Fanta Tanako” ที่ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่าน มีข้อความระบุตอนหนึ่งว่า “วันนี้ผมมีข่าวประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือจากการท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาเล่าให้ฟังครับ ทีวี NHK รายงานข่าวว่าการท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้รับการร้องเรียนจากประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศโดยเฉพาะจากเมืองท่องเที่ยวหลักๆ ของแต่ละภูมิภาค ประชาชนร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากพฤติกรรมอันไม่พึงปรารถนาจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ไม่มีมารยาทและไม่เข้าใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมโบราณอย่างเกียวโตนั้นรู้สึกจะโดนหนักมากเป็นพิเศษ จากเหตุการณ์นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ วิ่งไล่กวดเกอิชาและรุมดึงให้เธอมาถ่ายรูปด้วย จนกลายเป็นปัญหาของเมือง
ประธานสมาคมการท่องเที่ยวเมืองเกียวโตจึงได้สั่งติดป้ายประกาศขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวไว้เป็นจุดๆ ทั่วทั้งเมือง โดยได้เริ่มที่ย่านกิออนก่อน ป้ายนี้ขอความร่วมมือดังนี้ครับ ห้ามแตะต้องหรือสัมผัสตัวเกอิชาอย่างเด็ดขาด ห้ามนั่งตามข้างถนนตลอดจนบนรั้ว ห้ามเดินสูบบุหรี่ ห้ามเดินไปกินอาหารไป ห้ามทิ้งขยะเรี่ยราดโดยไม่คัดแยก ห้ามใช้ไม้เซลฟี่ในบริเวณย่านนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน
นอกจากนั้นยังมีเจ้าของร้านอาหารบ่นมาอีกว่านักท่องเที่ยวบุกเข้าห้องน้ำของร้านอาหาร ร้านค้าโดยไม่ขออนุญาตอีกด้วย หมู่บ้านบ่อน้ำทั้งแปด โอชิโนะฮัคไค ร้องเรียนมาว่า นักท่องเที่ยวชอบเดินบุกรุกเข้าไปในสวนบริเวณบ้านของชาวบ้านเพื่อถ่ายรูปหรือแอบถ่ายปัสสาวะ เกาะฮอกไกโดร้องเรียนเรื่องนักท่องเที่ยวทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง ส่งเสียงดังในตอนกลางคืน กินอาหารซีฟู้ดแบบทิ้งๆ ขว้างๆ และยังมีอีกหลายรายการครับ อาทิ คุยกันด้วยเสียงอันดังในรถไฟ ไม่เข้าคิวขึ้นลงรถไฟ รถเมล์ วางกระเป๋าเดินทางเกะกะขวางทางเดินในสถานีรถไฟ สนามบินและสถานที่ต่างๆ
ตัวผมเองในฐานะทูตทางวัฒนธรรมคนหนึ่งอยากขอความร่วมมือพี่น้องชาวไทยด้วยครับ ไม่ใช่ว่าผมจะมายกยอปอปั้นหรือเป็นบ้ารักญี่ปุ่นเสียเหลือเกินก็เปล่าหรอกนะครับ กรณีอย่างนี้ใจเขาใจเรา เราเองก็คงไม่อยากให้ใครมาย่ำยีวัฒนธรรมและบ้านเรือนของเราเช่นกัน จริงไหม นักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ เขาจะเป็นอย่างไรก็ช่างเขาเถิด เราชาวไทยเราเป็นชาติที่มีวัฒนธรรมอันดีงามมาตั้งแต่สมัยโบราณ ไปเยือนบ้านเขาเมืองเขาก็ปรับตัวและทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีของเขาดีกว่าเนอะ ในช่วงเวลาอันลำบากยากแค้นในทางเศรษฐกิจเช่นนี้ก็น่าเห็นใจญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อย พวกเขาเป็นชาวเกาะและเคยปิดประเทศอยู่นานเกือบๆ สามร้อยปี วัฒนธรรมต่างๆ ล้วนตกผลึกฝังรากลึกอยู่ภายในสังคมชาวเกาะ ตอนนี้ต้องมาเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อดึงเงินตราเข้าประเทศ แน่นอนว่าต้องมีความไม่สะดวกสบายอยู่บ้างหลายส่วนล่ะ ขอความร่วมมือเพื่อนๆ ช่วยส่งข่าวต่อไปด้วยนะครับ เพื่อภาพลักษณ์อันดีของชาวไทยเราเองและญี่ปุ่น ไทยก็หาใช่อื่นไกล เราเป็นเพื่อนบ้านกันมานานตั้งแต่สมัยอยุธยาโน่นแล้วครับ ขอกราบขอบพระคุณในความร่วมมือครั้งนี้
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Hattori Fanta Tanako
