นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะมาประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อติดตามงานที่ได้มอบหมายให้ไปปฏิบัติ ในวันที่ 27 เมษายน นั้น ในส่วนของจิสด้าเอง จะนำเสนอความคืบหน้าของโครงการ ธีออส 2 (THEOS-2) ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติดำเนินโครงการ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา รวมถึงขอความร่วมมือจากกระทรวงต่าง ๆ เพื่อให้โครงการ THEOS-2 เป็นโครงการแห่งชาติอย่างแท้จริง
นายอานนท์ กล่าวว่า ธีออส 2 ไม่ใช่การซื้อดาวเทียม แต่มีเป้าหมายหลักสำคัญที่จะปฏิรูประบบตัดสินใจและบริหารเชิงพื้นที่ของประเทศ โดยพัฒนาและต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานของหน่วยงานต่างๆ ทั้งในเรื่องของการพัฒนาระบบดาวเทียมและการนำส่ง การพัฒนาระบบผลิตภาพถ่ายและบริการภูมิสารสนเทศ การพัฒนาระบบประยุกต์การใช้งาน 6 ด้านได้แก่ ด้านการบริหารจัดการน้ำ ด้านการเกษตร ด้านภัยพิบัติ ด้านความมั่นคงของรัฐและสังคม ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และด้านการจัดการเมืองและพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การพัฒนาขีดความสามารถของประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรมและบริการด้านเทคโนโลยีอวกาศ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ซึ่งจะทำให้เกิดความต่อเนื่องจากการประยุกต์ใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ทุกกระทรวงฯ ดังนั้นการเรียนรู้และทำความเข้าใจกับเครือข่ายที่เกี่ยวข้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ
นายอานนท์ กล่าวด้วยว่า หลักการแล้ว ธีออส 2 เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง ดังนั้น กระทรวงต่าง ๆ จึงจะต้องส่งคนเข้ามาเพื่อมีส่วนในเรียนรู้และพัฒนาระบบการนำไปใช้ให้สอดคล้องกับภารกิจและสภาพของแต่ละพื้นที่ ที่แตกต่างกันออกไป บางแห่งอาจเป็น ภูเขา ทะเล พื้นราบ ลักษณะการใช้งานก็จะแตกต่างกัน การพัฒนาโครงการจึงต้องมองออกข้างนอกให้ทำงานร่วมกับคนอื่นได้ ไม่ใช่มองมาแต่ข้างใน พัฒนาเฉพาะจิสด้าอย่างโดดเดี่ยวและแยกส่วน อย่างนั้นไม่ใช่หลักการ ดังนั้นการพัฒนา จึงมีทั้งแบบทางเทคนิค การออกแบบแอพพลิเคชั่น เพื่อใช้ในแต่ละงานและแต่ละพื้นที่ และการทำงานกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อการเรียนรู้ร่วมกัน สอดรับกับแนวทางในการพัฒนาประเทศ
อย่างไรก็ตาม ผอ.จิสด้า ยอมรับว่า โจทย์ใหญ่ในขณะนี้คือ เราต้องทำงานกับบริษัทที่ชนะการประมูล โดยที่เขาไม่รู้จักประเทศไทยในทุกมิติ และไม่ได้ทราบถึงแนวนโยบายหลักของรัฐบาล ซึ่งจะต้องเร่งทำความเข้าใจเพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ
สำหรับงานจำเป็นเร่งด่วนนั้น นายอานนท์ กล่าวว่า ก็จะทำไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะเรื่องของการออกแบบระบบเพื่อการตัดสินใจที่สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาล เช่น การวางแผนเพาะปลูกของเกษตรกร ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ระบบของ ธีออส 2 ก็สามารถใช้ภาพถ่ายทางดาวเทียมประเมินการปลูกข้าวของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อวางแผนในบ้านเราทั้งด้านการเพาะปลูก เก็บเกี่ยว เพื่อการส่งออก ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สต็อกข้าวเหมือนที่ผ่านมา หรือการวางแผนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่งโครงการธีออส2 เราสร้างดาวเทียมที่เป็นของประเทศไทยเอง จึงสามารถสั่งการและใช้งานจากภาพถ่ายได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในเชิงยุทธศาสตร์ ส่วนเรื่อง ไฟป่า หมอกควัน การบริหารจัดการน้ำ และการท่องเที่ยว จริง ๆ แล้วในระบบ ธีออส 1 ก็ดำเนินการได้ แต่ ธีออส 2 จะเพิ่มความละเอียด และความต่อเนื่องมากขึ้นเพื่อให้การตัดสินใจง่ายและรวดเร็วด้วยข้อมูลที่ทันสมัยกว่าเดิม
สำหรับในมิติทางสังคมนั้น นายอานนท์ ยกตัวอย่างเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุข คือ การวางแผนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แม้ระบบของธีออส2 จะดีเพียงใด ในระยะยาวก็อาจไม่เกิดประโยชน์ หากขาดซึ่งบุคลากรด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ที่จะมาทำงานรองรับการพัฒนาด้านอวกาศของประเทศอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาล จึงจะมีการวางแผนร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ และมหาวิทยาลัยต่างๆ ในการพัฒนาหลักสูตรในมหาวิทยาลัยเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้มีบุคลากรที่มากพอจะรองรับการเติบโตทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
ทั้งนี้ในวันที่ 25 เมษายน นายอานนท์ ได้เรียกเจ้าหน้าที่เพื่อทำความเข้าใจกับระบบการพัฒนา ธีออส2 โดยมองว่า ก่อนที่จะคาดหวังให้คนภายนอกรับรู้และเข้าใจ คนในอย่างจิสด้าต้องเข้าใจก่อนเพื่อการสื่อสารที่ถูกต้องตรงประเด็น รวมทั้งต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายและความต้องการของประเทศ
