เมื่อวันที่ 26 เมษายน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวที่ จ.เชียงใหม่ถึงกรณี พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนว่า เป็นกฎหมายที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เป็นผู้เสนอ อย่างไรก็ตามก่อนที่กฎหมายที่จะออกมาเขาต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนว่ามีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร และในมุมมองในข้อสังเกตที่ตนฟังจากหลายคนเขาบอกว่า จะทำงานอะไรก็แล้วแต่ในประเทศไทยมันต้องฟังคนอื่นเขาด้วย ทหาร ตำรวจ แพทย์ ครู ทุกคนมีสมาคมที่เป็นองค์กรอาชีพนั้นๆ อยู่ แล้วใครบ้างล่ะที่จะทำงานโดยที่ไม่ผ่านองค์กรของท่านเอง แล้วใครจะควบคุมท่าน
“ไม่มีใครอยากควบคุมท่าน แต่ท่านต้องควบคุมตัวของท่านเอง แต่ปัจจุบันสิ่งที่เราได้เห็นท่านควบคุมตัวของท่านได้ประทับใจพี่น้องประชาชนแล้วรึยัง ผมไม่มีคำตอบ แต่ท่านต้องไปถามประชาชนโดยส่วนใหญ่ว่าประชาชนวันนี้ เขาพึงพอใจต่อการทำงานของสื่อมวลชนมากแค่ไหนอย่างไร เสียงสะท้อนเหล่านี้จะเป็นตัวที่ทำให้ท่านต้องเร่งปรับปรุงตัวเองเหมือนกับหน่วยงานราชการทุกหน่วยหรือทุกองค์กร ที่ทุกคนต้องปรับปรุงตัวให้ตอบรับกับยุคสมัย ให้ตอบรับกับความต้องการของประชาชน และตอบรับต่อการพัฒนาประเทศ
ต่อข้อซักถามว่าจะมีการเชิญมาหารือหรือทำความเข้าใจกันหรือไม่ พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า ในส่วนนี้รัฐบาลคงยังไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว เป็นเรื่องของสภาปฏิรูปฯ ต้องเรียนถามท่านว่าท่านจะดำเนินการอย่างไร แต่ผมเชื่อว่ากฎหมายทุกฉบับที่จะออกต่อจากนี้ไป เมื่อมีรัฐธรรมนูญแล้วเขาต้องฟังเสียงของประชาชน ฟังเสียงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฟังเสียงจากหลายๆ คน เพราะฉะนั้นใครก็แล้วแต่ ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้ในเวทีต่างๆ ที่ผู้ร่างกฎหมายเขาจัดทำขึ้น ไม่ใช่ว่าเขาจะดั้นเมฆเอาตามสิ่งที่เขาคิดแต่เขาจะฟังเสียงทุกคน ในขณะเดียวกัน ท่านที่เป็นผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ต้องฟังคนอื่นเขาบ้างเช่นกัน ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
