เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะแกนนำพรรคพท.ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคต่อพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคพท.
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การลาออกครั้งนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯทราบเรื่องแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้ว และท่านไม่ได้กล่าวอะไร แต่ก็เห็นด้วยที่ตนจะออกไปดำเนินชีวิตนอกวงการเมือง ทั้งนี้การลาออกดังกล่าวไม่ได้มีความขัดแย้งหรือบาดหมางกับใครในพรรค แต่มีความตั้งใจที่จะทำงานช่วยเหลือประเทศชาติและประชาชนโดยไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมือง และไม่อยากให้เกิดข้อครหาว่าทำงานเพื่อพรรคพท. โดย 1.ตั้งใจที่จะทำงานช่วยเหลือสังคมและให้ข้อคิดแก่สังคม ประเทศชาติและประชาชนที่เป็นประโยชน์เพื่อให้คนไทยอยู่ดีกินดี มีความสุข 2.ตั้งใจผดุงรักษาไว้ซึ่งความถูกต้องและยุติธรรมในสังคม 3.จะพิทักษ์รักษาและปกป้องให้เกิดความโปร่งใสภายใต้หลักนิติรัฐ นิติธรรมในบ้านเมือง 4.จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมใดๆทางการเมืองจะขอทำงานโดยอิสระ ตรงไปตรงมา ไม่มีวาระแอบแฝงซ่อนเร้น 5.จะทำหน้าที่พลเมืองดีเพื่อทดแทนคุณของแผ่นดิน จะติดตามตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวงในแวดวงราชการและเอกชน
“ทั้งหมดนี้ผมจะดำเนินการในลักษณะเป็นชมรมหรือศูนย์ประสานงานที่จะมีทีมงานด้านกฎหมายให้การสนับสนุนซึ่งขณะนี้มีทีมกฎหมายเข้าร่วม 2 คนแล้ว และคงจะเปิดตัวศูนย์ฯ หรือชมรมในเร็วๆนี้ จะรับฟังข้อร้องเรียนจากสาธารณะชนและผู้ร้องทุกข์ที่ได้รับความเดือดร้อน สุดท้ายขอฝากว่าผมไม่ต้องการให้นำไปถูกผูกโยงกับพรรคเพื่อไทย เพราะเชื่อว่าบทลงโทษที่จะบัญญัติขึ้นในกฎหมายพรรคการเมืองจะมีโทษรุนแรงหรืออาจมีอะไรที่เราคาดไม่ถึงก็เป็นได้ การลาออกไม่ได้ปรึกษาใครในพรรค แต่พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง วิเคราะห์สถานการณ์สภาวะบ้านเมือง เห็นว่าน่าจะทำประโยชน์แก่สังคมที่จะสร้าง ความยุติธรรมให้บ้านเมืองอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ศูนย์ประสานงานของผมจะไม่ทำเหมือนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชน ที่เรียกร้องประชาชนให้มาอยู่ฝ่ายตัวเอง หรือเรี่ยไรเงินและเรียกรับบริจาคเงิน ผมจะใช้สิ่งที่ผมมีอยู่ให้เต็มที่ โดยจิตอาสา”นายสุรพงษ์ กล่าว
พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า พรรคก็รู้สึกเสียดาย เพราะนายสุรพงษ์ก็ได้ทำงานกับพรรคมาหลายปี ท่านเป็นคนมีความรู้ และมีคุณค่า แต่เมื่อท่านตัดสินใจแล้วพรรคก็ให้ความเคารพ
