“แม้ว”เปิดใจอัลจาซีรา ยันไร้สัญญาณปรองดองจาก”คสช.” ปูดถูกลอบสังหาร 4 ครั้ง

“แม้ว”เปิดใจอัลจาซีร่า ลั่นไร้สัญญาณปรองดองจาก”คสช.” ปูดถูกลอบสังหาร 4 ครั้ง สมัยนั่งนายกฯ เย้ยร่างรธน.ฉบับกรธ.แย่กว่ารธน.เมียนมาร์ก่อนปฏิรูปประเทศ

เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวอัลจาซีรา เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หัวข้อ “Thaksin Shinawatra: Let Thailand return to democracy” ความยาวกว่า 25 นาที โดยนายทักษิณ ระบุว่า “ผมเลือกที่จะอยู่อย่างเงียบๆ เพื่อปล่อยให้รัฐบาลได้แก้ปัญหากันไป แต่ขณะที่เวลาผ่านมาปีครึ่งแล้ว แต่การปรองดองกลับไม่ได้เกิดขึ้นจริง ขณะที่มีการกระทำต่างๆที่ส่งผลกระทบจนรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมต่อผู้ที่สนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง นั่นคือเหตุผลที่แค่อยากออกมาบอกว่ารู้สึกเดือดร้อนจากคณะรัฐบาล ผมคิดว่าการปรองดองไม่เคยเกิดขึ้นจริง ครั้งแรกหากคุณจำได้ ตอนที่ทหารแถลงเหตุผลของการทำรัฐประหาร สาเหตุที่ต้องยึดอำนาจการปกครองคือเพื่อสร้างความปรองดอง ถ้าลองย้อนกลับไปฟังว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พูดอะไรในวันแรกเปรียบเทียบกับวันนี้ ผ่านมาปีครึ่งแล้ว ไม่มีการปรองดองใดๆเลย การพูดวันนี้ไม่ใช่การตอบโต้ ผมแค่ปรารถนาให้ประเทศกลับคืนสู่เส้นทางประชาธิปไตย ไม่ได้เลยออกไปสู่ความเป็นเผด็จการ

นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการร่างรัฐธรรมนูญด้วยว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นายกรัฐมนตรีในอนาคตจะถูกควบคุมโดยองค์กรเหนือรัฐแบบโปลิตบูโรควบคุมรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง อีกทั้งยังมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติยาวนานต่อเนื่อง 20 ปี เพื่อควบคุมการบริหารงานของรัฐบาลอีกที ดังนั้นรัฐธรรมนูญฉบับไม่ได้สนใจเคารพในเสียงของประชาชนเลย ประชาชนแทบจะไม่มีอำนาจอะไรเลย คนทั้งประเทศเลือกตั้งรัฐบาล แต่นายกรัฐมนตรีที่ประชาชนเลือกมา กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายใดๆนอกเหนือไปจากในกรอบของคณะกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติที่มาจากกองทัพ ถือเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่แย่ที่สุด แย่มากกว่ารัฐธรรมนูญของประเทศเมียนมาร์สมัยก่อนการปฏิรูปประเทศด้วยซ้ำ

เมื่อถามถึงโอกาสที่จะได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง นายทักษิณ กล่าวว่า ถ้ากลับไป ใครจะรับประกันความปลอดภัยในชีวิตตน มีความพยายามลอบสังหารตนถึง 4 ครั้ง สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อถามต่อว่าใครต้องการฆ่า นายทักษิณ กล่าวว่า “ผมไม่สามารถพูดได้ ไม่สามารถบอกคุณได้ ผมไม่รู้ว่าใคร ก็พยายามพยายามค้นหาความจริง แม้กระทั่งพยานในคดีคาร์บอม ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2549 เคยบอกว่ามีคนพยายามฆ่าผม หากไม่สำเร็จก็จะใช้วิธีรัฐประหารขับไล่ ถ้ารัฐประหารสำเร็จ นั่นคือสิ่งที่พยานได้ให้ปากคำในการสอบสวนไว้ในเดือนสิงหาคม จากนั้นในเดือนกันยายน ผมก็ถูกรัฐประหาร”

Advertisement

เมื่อถามต่อว่าคุณปรารถนาที่จะกลับประเทศไทย นายทักษิณ กล่าวว่า “ตอนนี้ผมโอเค ใช่ ผมเคยอยากกลับ หากผมได้กลับบ้าน แน่นอนผมจะกลับ แต่หากไม่สามารถกลับได้ ผมโอเค เพราะผมอยู่ได้ทุกประเทศ รัฐบาลคสช.พูดเสมอว่า รัฐบาลอยากสร้างความปรองดอง อยากเห็นประเทศเดินหน้าได้ แต่นี่มันปีครึ่งแล้ว มันแทบไม่มีสัญญาณของการปรองดองใดๆ ในทางกลับกัน กลับเอาอกเอาใจฝ่ายหนึ่ง และกดดันบีบคั้นอีกฝ่ายหนึ่ง ความปรองดองมันก็เกิดขึ้นไม่ได้
เมื่อถามว่าได้พูดคุยโดยตรงกับคณะรัฐประหารบ้างหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ไม่เคย เขาก็พูดเองว่าไม่ต้องการพูดคุย แต่ผมไม่ได้สนใจ ผมแค่ตั้งใจเตือนว่า อย่าห่วงอะไรผม ให้ห่วงประเทศชาติ ให้ห่วงประชาชน ประเทศไม่ใช่แค่แผ่นดิน แต่หมายถึงประชาชนที่อาศัยร่วมกันอยู่บนผืนแผ่นดิน”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image