อียิปต์พบ “คลังมัมมี่” ที่ลักซอร์

หน้ากากไม้แกะสลัก เป็นใบหน้าและเครื่องประดับแสดงฐานะของผู้ตาย (ภาพ-AFP)

ทีมขุดค้นทางโบราณคดีของกระทรวงโบราณคดีแห่งอียิปต์ ซึ่งมี มอสตาฟา วาซิรี เป็นหัวหน้าทีม ประสบความสำเร็จในการขุดค้นสุสาน “ดรา อาบุล นากา” อายุ 3,500 ปีในพื้นที่บริเวณใกล้กับลักซอร์ พบมัมมี่มากถึง 8 ซาก พร้อมโบราณวัตถุที่ใช้ประกอบในพิธีฝังศพยุคโบราณอีกเป็นจำนวนมาก

สุสานดังกล่าวเป็นของ “อูเซอร์ฮัท” ชนชั้นขุนนางซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้พิพากษาประจำเมืองแห่งนี้ ต่อมาในยุคราชวงศ์ที่ 21 หรือเมื่อราว 3,000 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการลักลอบขุดเพื่อปล้นสะดมสุสานกันขนานใหญ่ ได้มีการเปิดสุสานแห่งนี้ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อหาทางป้องกันไม่ให้ถูกลักลอบขุดและเพิ่มจำนวนมัมมี่เข้าไว้ในสุสานอีกด้วย วาซิรี เปิดเผยว่า ภายในรูปตัวที ที่มีด้านหนึ่งเป็นลานเปิดนำไปสู่ห้องสี่เหลี่ยม มีเส้นทางเชื่อมต่อ ทอดไปยังสุสานชั้นใน ที่เป็นช่องยาว 9 เมตร ภายในเต็มไปด้วยรูปสลักขนาดเล็กสำหรับใช้พิธีฝังศพ ซึ่งเรียกว่า “อูชับติ” เป็นจำนวนมากถึง 1,000 ชิ้น นอกจากนั้นยังมีหน้ากากไม้ และคานสำหรับใช้หามแท่นหินสำหรับปิดโลงศพหิน หรือ “ซาร์โคฟากัส” อีกจำนวนหนึ่ง

ซาร์โคฟากี หรือฝาปิดโลง ทำด้วยหินสลักเป็นภาพใบหน้าพร้อมวาดลวดลายวิจิตร (ภาพ-AFP)

รูปสลักอูชับติ เป็นส่วนหนึ่งของพิธีศพในยุคอียิปต์โบราณ มักถูกนำมาใส่ไว้พร้อมกับผู้ตายในสุสาน สำหรับเป็นข้าทาสบริวารหลังจากสิ้นชีวิตไปแล้ว

ในสุสาน ทีมขุดค้นพบโลงหินมากถึง 10 โลง ฝาโลงหินที่เรียกว่า “ซาร์โคฟากี” มีการแกะสลักเป็นใบหน้าของผู้ตายพร้อมกับวาดลวดลายด้วยสีสันต่างๆ ทั้งสีแดง, น้ำเงิน, ดำ, เขียว และเหลือง ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพดี มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่แตกหัก หรือเสื่อมสภาพไปบ้างตามกาลเวลา ภายในพบซากมัมมี่สมบูรณ์รวม 8 ซาก แต่ละซากห่อด้วยผ้าลินิน นอกจากนั้นยังมัมมีที่หลงเหลือเพียงบางส่วนอีกด้วย และยังพบหม้อดินเผาทาสีขาว, ส้ม, เขียว และที่วาดเป็นลวดลายภายในสุสานอีกด้วย

Advertisement
อูชับติ หรือรูปปั้นขนาดเล็ก รูปปั้่นสำหรับเป็นข้าทาสบริวารของผู้ตาย (ภาพ-AFP)

สุสานแห่งนี้ ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ ตรงกันข้ามกับลักซอร์ (เดิมคือ ธีบส์ เมืองหลวงของอียิปต์โบราณ ตั้งอยู่ห่างจากกรุงไคโรไปทางใต้ราว 650 กิโลเมตร) ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญเนื่องจากเป็นที่ตั้งของสุสานฟาโรห์แห่งอียิปต์เป็นจำนวนมาก รวมทั้ง ตุตันคามุน จนได้ชื่อว่าเป็น “หุบแห่งกษัตริย์” อายุของสุสานที่ค้นพบใหม่นี้ประเมินจาก ภาพวาดประดับเพดานของสุสานแห่งนี้เป็นสำคัญ ทั้งนี้ วาซิรี หัวหน้าทีมขุัดค้นระบุว่า มัมมี่บางส่วนน่าจะมีอายุย้อนหลังไปในยุคที่เรียกกันว่า “ยุคปล้นสุสาน” เพราะมีร่องรอยแสดงให้เห็นว่า มีผู้ที่ได้รับความเห็นชอบ เปิดทางเข้ามายังห้องภายในของสุสานและนำเอาโลงมาเก็บรักษาไว้ภายในห้องดังกล่าว

ทีมขุดค้นทางโบราณคดีจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายซากปรักหักพังที่ทลายลงมาอยู่เต็มบริเวณโถงเปิดโล่ง เป็นระยะทางถึง 450 เมตร จึงสามารถค้นพบทางเชื่อมต่อและเข้าไปถึงห้องในสุสานได้

วาซิรี ระบุว่าทีมขุดค้นยังตรวจสอบพบห้องในสุสานอีกห้องหนึ่ง แต่ยังไม่มีการสำรวจไปถึง คาดว่า น่าจะค้นพบมัมมี่เพิ่มมากขึ้นในขณะที่การขุดค้นยังคงดำเนินต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image